Ebook ชีวิตที่ทรหดอย่างไม่น่าเชื่อของ ดร.หัสวุฒิ ประธานศาลปกครองสูงสุด




ศาลา 14 วัดเทพศิรินทราวาส ยามเย็นวันอาทิตย์ 17 เมษายน 2559  
พระอาทิตย์ลดความร้อนแรงลงมาบ้าง ผมขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่งมาเคารพร่างไร้วิญญาณ
ของ ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล อดีตประธานศาลปกครองสูงสุด
“ศาลา 14 อยู่ทางไหนครับ” ผมถาม รปภ. เพราะศาลาในวัดเทพศิรินทร์เยอะมาก
ผมเคยมาวัดเทพศิรินทร์เหมือนกันแต่นานมากแล้วครับ งานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ) ในปี พ.ศ.2533 สมัยยังเป็นเด็กวัดรำ่เปิง จ.เชียงใหม่
รปภ. ซึ่งเห็นผมจอดรถมอเตอร์ไซค์ อยู่ตรงหน้าคงเห็นใจผมเพราะศาลาคงอยู่ไกล
“ขี่เข้าไปจอดที่หน้าศาลาได้เลยครับ ถ้าเดินไปก็ไกลพอควรที่นั่นมีที่จอดสบายๆ”
เสียงอันเป็นมิตรของ รปภ.  ผมเลยขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดหน้างาน หยิบเสื้อสูทสีดำที่ม้วนใส่อยู่ในกระเป๋าเป้มาสวมใส่ให้เข้ากับงานและเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์

โกศบรรจุศพ ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล



 บริเวณศาลาแขกมาร่วมงานยังไม่เยอะ เพราะงานสวดศพจะเริ่มต้นเวลาหนึ่งทุ่ม ผมเดินเข้าไปในศาลาไม่รู้จักใครสักคนในงานแม้แต่คนเดียว  รู้จักแต่ อ.หัสวุฒิ ท่านเดียว แต่ก็พูดกับท่านไม่ได้แล้ว
เปิดประตูเข้าไปในศาลาแอร์เย็นฉ่ำ มีคนกำลังยืนสนทนากันอยู่
โกศสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า ด้านหลังโกศมีโลงศพสีขาว  ถอดรองเท้าเข้าไปนั่งคุกเข่า
มองไปที่โกศ  “ระลึกถึงบุญกุศลอันใดที่เคยทำมาขอให้ดวงวิญญาณอาจารย์ได้บุญด้วยครับ”
สงบจิตใจสักพัก ลุกขึ้นมาผมเดินเข้าไปถามผู้มาร่วมงานคนหนึ่ง
“ภรรยา ดร.หัสวุฒิท่านไหนครับ”
ว่าแล้วเธอก็ผายมือบอกให้ผม

ประธานศาลปกครองสูงสุด เข้าใจชีวิตคนจน


ผมยื่นซองทำบุญแล้วบอกเธอว่า เป็นลูกศิษย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ
เธอยิ้มรับซอง แล้วขอบคุณไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะมีคนยืนคุยด้วยสี่ห้าคนผม
ตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่ร่วมงานสวดศพ แต่พอเห็นงานในครั้งนี้อยู่มีพิธีกรรมพอสมควร
ผมไปดีกว่า ก็ค่อยๆ เดินออกมาแล้วบึ่งมอเตอร์ไซค์คันเก่งกลับไปบ้านทันที ก่อนกลับ
ก็แวะไปค่ายมวยแสงมรกตที่ตั้งอยู่ในวัดสิตาราม พวกน้องๆ นักมวยกำลังเตรียมทานอาหารเย็นพอดี
ผมก็นั่งเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คสักพักนึงค่อยกลับบ้าน

นักมวยไทยทานข้าวเย็น ค่ายแสงมรกต วัดสิตาราม(คอกหมู)



ก็คงคิดว่า เรื่องราวของ อ.หัสวุฒิ คงมีแค่นี้เพราะงานพระราชทานเพลิงศพก็คงไม่ได้มาแล้ว สายตาของผมมองไปที่พวงหรีดเต็มไปหมด แต่ไปสะดุดตาพวกหรีดอันหนึ่งเขียนว่า ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดสระเกศ นึกในใจว่า อ.หัสวุฒิ จบวัดสระเกศ หรือ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าท่านเรียนที่ไหนรู้แต่ว่า เรียนนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์และไปเรียนต่อออสเตรีย ผมก็ยังทิ้งไว้แต่ความสงสัยว่า ทำไมท่านถึงโดนพักราชการจากตำแหน่งประธานตุลาการปกครองสูงสุดไม่มีอะไรเหลือไว้ให้อ่านบ้างพยานหลักฐานในชีวิต โต้แย้งข้อกล่าวหาบ้างเลยหรือเปล่า
คนตายไปแล้วจะพูดอะไรได้

ภาพจากหนังสืออีบุ๊ค



บนโต๊ะอาหารที่บ้านอังคาร 19 เมษายน พ่อผมทำสุกี้หม้อไปให้ทานแล้วบอกผมว่า
“มีคนส่งประวัติ ดร.หัสวุฒิมาให้พ่อเป็น PDF ไฟล์มาทางไลน์ พ่ออ่านดูแล้ว
ชีวิตของแกสู้มากเลย กว่าจะมาถึงตรงนี้”
ระหว่างที่ท่านสุกี้ผมก็จิบเบียร์และอ่านอีบุ๊คชื่อว่า นักสู้บนเส้นทางความยุติธรรม  ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ที่มีความหนาของ PDF จำนวน 256 หน้า

นักเรียนกฏหมาย


แค่เริ่มต้นอ่านก็ทึ่งแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตอาจารย์หัสวุฒิจะลำบากยากไร้ถึงขนาดต้องไปเป็นกรรมกรตั้งแต่อายุ 10 ขวบ  ที่สำคัญท่านใช้ชีวิตอยู่แถววัดสิตาราม (วัดคอกหมู) ซึ่งค่ายมวยไทยแสงมรกต
ตั้งในวัดคอกหมู ในหนังสือเล่าว่าท่านเป็นเด็กวัดและอาศัยข้าววัดทานที่แห่งนี้  ผมทึ่งมาก ๆ และที่สำคัญท่านเรียนจบที่โรงเรียนวัดสระเกศ ตามพวงหรีดที่ผมสงสัยเป๊ะเลย และย่านแถวเบ๊โบ๊ ตลาดมหานาคที่อาจารย์ใช้ชีวิตอยู่สมัยเรียน ผมก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ถึง 4 ปี ไม่เคยทราบเลยว่า
ประธานตุลาการศาลปกครองสูงสุดใช้ชีวิตอยู่แถวนี้มาก่อน  

สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยวเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กับ ศิษย์วัดสระเกศ



ทานข้าวเสร็จเบียร์สิงห์หมดแก้ว ผมรีบนำไอแพดของพ่ออัพโหลดไฟล์แล้วแชร์ส่งมาที่ผม
และเปิดอ่านบนที่นอนเรื่อยไปจนจบก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน
ชีวิตของ อ.หัสวุฒิ ทรหดอดทนมาก  แต่ผมก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ชีวิตของท่านยากไร้ขนาดมีชุดนักศึกษาชุดเดียวไปเรียนตลอดการเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จริงๆ หรือ

เงินกับชีวิต





ครอบครัวนักศึกษาไทยในออสเตรีย



ที่สำคัญมีสิ่งที่ท่านให้สัมภาษณ์ในหนังสือด้วยว่าเมื่อท่านกลับจากการเรียนปริญญาเอก กฏหมายจากประเทศออสเตรีย 11 ปี ท่านกลับมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่ธรรมศาสตร์ และเป็นอาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยพายัพที่ผมเรียนอยู่และเวลานั้นชีวิตของท่านก็ยังลำบากเพราะค่าใช้จ่ายในชีวิตเยอะ  ผมอ่านไปก็เศร้าใจไป ชีวิตการเรียนที่ออสเตรียก็หนักหนาสาหัส จบมาแล้วก็ยังไม่พ้นจากความยากจนถึงแม้จะมีความรู้ขนาดนั้น ทำไมความยากจนยากลำบากถึงยาวนานเหลือเกิน ในฐานะที่ผมเป็นลูกของอาจารย์มหาวิทยาลัยเหมือนกับอาจารย์ก็พอจะทราบครับว่าเงินเดือนของอาจารย์ไม่ได้มากมายอะไร พ่อผมส่งผมเรียนก็หนักหนาเอาการ ผมจึงไปต่อยมวยสากลให้กับคณะนิติศาสตร์และมหาวิทยาลัยพายัพเพื่อให้ได้ทุนการศึกษาช่วยลดภาระค่าเล่าเรียนและหน่วยกิตบ้างไม่มากก็น้อย พร้อมกับทำงานธุรกิจให้กับคณะนิติศาสตร์ รับส่งอาจารย์ที่มาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บ้างในช่วงที่เรียน

ไปเมืองนอกครั้งแรกประเทศออสเตรีย



อ่านมาเรื่อยๆ จนถึงบทท้ายๆ ท่านพูดถึงว่าทำไมท่านถึงถูกพักราชการจากประธานตุลากาลศาลปกครองสูงสุด แต่เหมือนท่านบอกไม่หมดว่าอะไรเกิดขึ้น แถมตอนเป็นประธานตุลาการปกครองก็ยังไม่พ้นจากความยากลำบากเพราะมีหนี้สินที่ซื้อบ้าน 10 ล้านบาท  ชีวิตทรหดอดทนมากๆ


หนังสืออีบุ๊คที่พ่อผมได้มานั้น ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนแต่รู้ว่าเป็นการให้สัมภาษณ์และนำมาเขียนเหมือนกับชีวประวัติที่ต้องการบอกให้คนรุ่นหลัง  แต่เป็นการให้สัมภาษณ์หลังจากที่ออกจากตำ
แหน่งมาแล้วไม่มีเงินเดือน ไม่มีการสอบสวน  


และหนังสือเล่มนี้ก็ไม่รู้ว่าจะวางขายหรือเปล่าหรือเป็นหนังสือแจกในงานพระราชทานเพลิงศพหรือเปล่า วันนี้ ดร.หัสวุฒิ จากไปแล้วเหลือแต่ชื่อเสียง คุณงามความดี หรืออีกด้านหนึ่งก็คือด้านไม่ดีของท่านผมก็ไม่ทราบเพราะผมเชื่อว่าคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ในโลกนี้มีสองด้านทั้งนั้น


หนังสืออีบุ๊คฉบับนี้จะพิมพ์แจกในงานศพของท่านหรือเปล่าผมก็ไม่ทราบ
แต่อยากทุกคนในประเทศไทยให้ได้อ่านว่า ชีวิตที่เต็มไปด้วยความทรหดอดทนมาก ๆ ไม่ต่างจากน้องๆ นักมวยไทยที่ผมไปซ้อมมวยด้วยเพราะให้หลุดพ้นจากความยากลำบากด้วยวิชามวยไทย  แต่ชีวิตของ
อ.หัสวุฒิ เต็มไปการต่อสู้เพราะให้ได้มาซึ่งความรู้และการศึกษาเพื่อจะหลุดพ้นจากความลำบากที่มีติดมาตั้งแต่เกิด  ซึ่งความยากจนและความยากลำบากไม่ใช่สิ่งน่าละอาย การต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ในทางที่สุจริตสำหรับผมแล้วเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและควรแก่การยกย่อง


ขอบคุณผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ที่ได้เผยแพร่ชีวิตในอดีตของ อาจารย์กฏหมายแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และประธานตุลาการศาลปกครองสูงสุด

ตัวอย่างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และเป็นไปได้ จากเด็กกรรมกรสู่ประธานศาลปกครองสูงสุด



ผมได้อัพโหลดขึ้นไปบนโซเชียลมีเดียเพื่อเป็นตัวแทนของ อ.หัสวุฒิ ให้ท่านได้เล่าเรื่องชีวิตแต่หนหลังผ่านตัวอักษรที่บันทึกไว้ ซึ่งแม้แต่ผมเองสมัยเรียนกับท่านก็ไม่ทราบเลย คิดว่าท่านเป็นนักเรียนนอกคงจะเรียนเก่งและร่ำรวยสอบชิงทุนได้ แต่ที่ไหนได้ความจริงของชีวิตของอาจารย์กับความนึกของผมเป็นคนละเรื่อง  ชวนอ่านครับว่าความทรหดอดทนมีเพียงใดแล้วลองเปรียบเทียบกับชีวิตของท่าน และการต่อสู้กับสิ่งที่น่ากลัวและยากที่สุดก็คือความยากลำบากและความยากจนซึ่งคนไทยอีกหลายล้านคนได้เผชิญอยู่

ชีวิตล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร เครดิต พระพุทธเจ้า




ขอให้ดวงวิญญาณของอาจารย์ได้รับรู้ว่าความยุติธรรมที่อาจารย์เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทให้กับคู่ความ
และวันหนึ่งอาจารย์ต้องมาแสวงหาความยุติธรรมให้กับตัวเอง ผมเองก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
อาจารย์จะผิดหรือจะถูกผมก็ไม่อาจจะทราบได้ในสิ่งที่ท่านเผชิญอยู่
มีอีกเรื่องที่อยากจะบอกเล่าเท็จจริงประการใดผมไม่ทราบ เพื่อนผมโทรมาบอกว่า ช่วงที่อาจารย์หัสวุฒิป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช อาจารย์ยังขัดสนไม่มีเงินรักษาตัว จนกระทั่งได้ลาจากโลกนี้ไป
ถ้าผมมีโอกาสเจออาจารย์ในขณะที่มีชีวิตอยู่ ผมอยากมอบข้อเขียนของศรีบูรพาให้อาจารย์ครับ


เวลาพายุกล้า ฟ้าคะนอง


ผงคลีฟุ้งตลบไปในอากาศ ไม่เห็นตัวกัน ใครๆ ก็จะเห็นว่าเรายืนอยู่ที่เดิมและจะอยู่ที่นั่น > ศรีบูรพา



ชีพธรรม คำวิเศษณ์

ลูกศิษย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาพายัพ รหัส 2535


ความคิดเห็น