ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ จาก CEO สถานีโทรทัศน์รายได้ 600 ล้านบาท มาเป็นสตาร์ทอัพ



Youtube สารคดีชีวิต จาก CEO สถานีโทรทัศน์ 600 ล้านมาเป็นสตาร์อัพเว็บไซค์ 77 ข่าวเด็ด





นักมวยไม่มีเข็มขัด แชมป์โลกก็คือนักมวยธรรมดา > เสือเหลือง คอลัมนิสต์ นิตยสารมวยโลก เคยเขียนไว้ 

โลกโซเชียลมีเดีย และ ทีวีดิจิตอล ของประเทศไทย ที่กำลังลุ่มๆ ดอนๆ เพราะโดนกระแสของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปและถูกโซเชียลมีเดีย กระหน่ำ ดึงสายตาประชาชนจากโทรทัศน์มาอยู่บนสมาร์ทโฟ 
คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนากิจ หรือที่ผมเรียกว่า พี่อดิศักดิ์  อดีต CEO สถานีโทรทัศน์เนชั่นช่อง  22  เป็นลูกหม้อในเครือเนชั่นมาตลอดชีวิตการทำงาน เป็น CEO  คนแรกของสถานีโทรทัศน์เนชั่นมาอย่างยาวนานถึง  17 ปี  เป็นสถานีโทรทัศน์ที่เข้าจดในตลาดหลักทรัพย์ มียอดขาย 600 ล้านบาทต่อปี 
เงินเดือนที่ได้รับต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท รวมค่าประชุมบอร์ดโน่นนี่นั่น คิดว่ารวมรายได้ต่อเดือนทุกอย่างรวมกันคงมากกว่า 600,000 บาท  มาวันนี้กลายเป็นสตาร์ทอัพเว็บไซค์ 77 ข่าวเด็ด

สิ่งที่น่าใจหายก็คือเป็นไปได้อย่างไรที่คนเคยบริหารพนักงาน 500 คน ต้องมาทำสตาร์ทอัพแทนที่จะไปเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ  ที่รับยอดขายเป็นร้อยหลายพันล้าน มาเริ่มต้นบริษัทที่ยังไม่มีรายได้แม้แต่บาทเดียว แถมประกาศก้องโด่งดังว่าจะมาเอาชนะเว็บไซค์และโซเชียลมีเดียของหนังสือพิมพ์ข่าวสดที่มีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคน 

ทำไมผมถึงอยากบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้เพราะว่าเป็นประวัติที่ควรบันทึกไว้ เป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการสตาร์ทอัพในเมืองไทย  

เมื่อปี ..2555 ผมเคยเขียนหนังสือ ในสนามข่าวเราคือตัวจริง เป็นหนังสือประวัติศาสตร์การสร้างสถานีโทรทัศน์ 24 ชั่วโมงแห่งแรกของประเทศไทยช่องเนชั่นแชนแนล  ทุกอย่างเต็มไปด้วยขวากหนามและเป็นรองคู่แข่งทุกคนในอุตสาหกรรม แต่เมื่อลงสนามแล้วต้องอยู่ในได้ ผมสนใจว่าพวกเขาต่อสู้กับปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างไร  แม้แต่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าวชื่อดังของประเทศไทย  ก็เริ่มจากสถานีโทรทัศน์แห่งนี้และอีกหลายๆ คน 

ผมพาตัวเองไปยืนในวันเริ่มต้นประชุม ทีมงานตัวแทนของผู้สื่อข่าวที่มาจากภูมิภาคทั่วประเทศไทย 
ถึงแม้จะไม่กี่คนแต่ก็เป็นตัวแทนหลายจังหวัด  มาบรรยายให้ความรู้เรื่องงานข่าวกับโซเชียลมีเดีย
และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องการมาที่สุดก็คือ อยากจะมาให้กำลังใจพี่อดิศักดิ์  เพราะความหมายของคำว่า
สตาร์ทอัพในใจของผม ก็คือ ลูกเจี๊ยบ ที่ไม่รู้ว่าจะไปรอดหรือเปล่า เพราะสตาร์ทอัพก็คือการเริ่มต้นใหม่

ผมไม่รู้ตัวเลขอายุจริงๆ ของพี่อดิศักดิ์ว่าทำไร แต่ว่ากันว่าเกิดใน ..2504 มาวันนี้เป็นสตาร์ทอัพ
ที่อายุมากที่สุดและผ่านชีวิตประสบการณ์เกมส์ใหญ่ๆ  มาแบบแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย 
ทีมงานพี่อดิศักดิ์เล่าให้ผมฟังว่า เงินเริ่มต้นการทำเว็บไซค์ 77 ข่าวเด็ด มาจากเอาโฉนดที่ดินไปกู้ธนาคารได้เงินมา 5 ล้านบาทเป็นเงินเริ่มต้นบริษัทใหม่ 

ทีมบริหารเว็บไซค์ 77 ข่าวเด็ดของพี่อดิศักดิ์ อายุ 50 ปีกันทั้งนั้น ทีมงานโปรดักชั่นก็ไม่ใช่เด็กจบใหม่ 
แต่ผ่านงานสถานีโทรทัศน์มาอย่างโชกโชน เป็นบรรณาธิการข่าว โปรดิวเซอร์รายการมาแล้วทั้งนั้น 
วิสัยทัศน์ บารมี ความเอาจริงเอาจัง กัดไม่ปล่อย ไม่ยอมแพ้ คงเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นว่า
พี่อดิศักดิ์จะพาพวกเขาไปตลอดรอดฝั่ง ผู้บริหารบางท่านที่นั่งสนทนาในวงเบียร์ยังเชื่อลึกๆ ว่า
เว็บไซค์ 77 ข่าวเด็ด จะไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เหมือนที่เคยสำเร็จมาแล้วในอดีต 

"ชีพธรรม ช่วงนี้ผมไปฟังพวกสตาร์อัพ บ่อยๆ  ผมอยากรู้ว่าเขาคิดอะไร  ในช่วงนี้ยุคดิจิตอล 
ทุกคนเท่ากันหมดเพราะว่าเป็นโลกใบใหม่" พี่อดิศักดิ์บอกกับผม

เรื่องเล่าบนโต๊ะอาหารกลางวัน "ท่าน .วชิรเมธี ก็เกิดจากสื่อเนชั่นแหละนี่ เขียนบทความลงเนชั่นสุดสัปดาห์แล้วก็ไปออกทีวี แล้วก็ดังไปเรื่อยๆ"  นี่เป็นความหลังครั้งเก่า

พี่อดิศักดิ์เป็นผู้อยู่ความดังมีชื่อเสียงของหลายๆ คน คอนเนคชั่นในมือมหาศาล  ผมเชื่อลึกๆ ว่า
ช่วงการเลือกตั้งของประเทศไทยที่จะมาเร็วๆ นี้ใน ปี ..2561 เว็บไซค์ 77 ข่าวเด็ดจะดังเป็นพลุแตก
เพราะว่างานข่าวเลือกตั้งเป็นสิ่งที่พี่อดิศักดิ์ ถนัดที่สุด และมีไอเดียทางเทคโนโลยีที่มาใช้กับการรายงานผลการเลือกตั้ง 

ผมได้บันทึกสารคดีชีวิตของพี่อดิศักดิ์ในวันเริ่มต้นทีมงาน 77 ข่าวเด็ดวันแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์  11 พฤศจิกายน ..2560  ที่ผ่านมา ไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง  

พี่จิ๊บมารพิณ youtuber ช่อง feelthai  ที่มีผู้ติดตามมากว่า 80,000 ราย ปรมาจารย์ของผมอีกท่านหนึ่ง ได้เคยบอกว่า "ชีพธรรม ตอนนี้วงการนักข่าวสื่อมวลชนเหมือนกับกรุงศรีอยุธยาแตก สื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ แม็กกาซีน ทุกอย่างล่มสลายหมดแล้ว"   ซึ่งทุกอย่างก็เป็นจริงอย่างที่พี่จิ๊บพูดทั้งหมด

การเขียนถึงพี่อดิศักดิ์ครั้งนี้ ไม่ได้เชียร์ เพียงอยากบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งให้คนรุ่นหลังได้ติดตามอ่าน เป็นแรงบันดาลใจว่า ทุกอย่างเริ่มต้นได้หมด ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา
การกลับไปมองจุดเชื่อมโยง Connecting the dot ที่สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple พูดไว้เป็นความจริงทั้งหมด 

ขอบคุณความไม่สมหวังประสบความสำเร็จที่ พี่อดิศักดิ์ เข้าแข่งขันเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Thaipbs ไม่ได้ เพราะเขาไม่ให้เป็น  ความจริงแล้วคู่แข่งของพี่อดิศักดิ์ในการแข่งขันช่อง Thaipbs 
ในมุมมองของผม ถ้าหากคู่นี้เป็นมวยไทย ถือว่าประกบคู่แล้ว ถือว่าชกกันไม่ได้ เพราะพี่อดิศักดิ์
เป็นต่อหมด ประกบขึ้นมาก็ไม่มีใครอยากไปตีตั๋วดู เพราะชั้นมวยแล้วชกกันไม่ได้   แต่ผลออกมาพี่อดิศักดิ์แพ้ ก็ไม่ว่ากันแพ้ก็แพ้  

แต่ก็เป็นโชคดีที่ผมและประชาชนไทยทุกคนผู้ติดตามข่าวสารจะได้เห็นรูปแบบใหม่ของการนำเสนอพีข่าวสารแบบใหม่ และ จิตวิญญาณที่จะเอาชนะในโลกของธุรกิจและข้อมูลข่าวสาร 
วิสัยทัศน์อย่างหนึ่งที่น่าสนใจของพี่อดิศักดิ์ "นักข่าวต้องมีแบรนด์ ต้องเป็นที่รู้จัก" 

ผมซาบซึ้งคำนี้ดี ผมเคยเป็นผู้สื่อข่าว พิธีกรโทรทัศน์ นักจัดรายการวิทยุที่ช่อง 9 .... เมื่อลาออกมาแล้ว ผมก็คือคนธรรมดา  แต่โชคดีว่ายังมีอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียให้นักข่าวเก่าๆ เริ่มอายุเยอะแล้วได้มีช่องทางอยู่มาก

ถ้าหากเขียนเมื่อพี่อดิศักดิ์ อยู่ในตำแหน่ง CEO ผู้อ่านคงหาว่าเชลียหรืออยากได้งานทำ  มาวันนี้ไม่มีแล้ว ลงมือเขียนไล่เรียงความคิดจากสมองซึ่งสมบัติอันมีค่าที่สุดของผมออกมาเป็นตัวอักษรเพื่อให้ชวนติดตามชีวิตของชายชื่อ อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ  ชายร่างอ้วน ว่าเขาจะนำความคิดและความฝันผลักดันให้เป็นจริงได้อย่างไร  ซึ่งเขาเป็นผู้สอนโดยไม่ได้สอนให้ผมได้เห็นและรู้จักคำว่า 
CEO เขาเป็นกันอย่างไร

บันทึก จันทร์ 13 พฤศจิกาบน ..  2560





























































เวลา 08.09 .

ความคิดเห็น