เพลงโลกนี้คือละคร แต่ชีวิตจริงทุเรศกว่า





เงินทองเป็นมายา ข้าวปลาเป็นของจริง via มจ.สิทธิพร กฤษดากร
ถ่ายจริงจากอาหารมื้อเช้าของผู้เขียน


ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงดำ ห้องครัวเสมือนจริงระหว่าง 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านมณียา กับ เพอร์เฟคมาสเตอร์พีซ  
จ.นนทบุรี ผมจะฝากท้องไว้ร้านนี้อยู่เป็นประจำ มาทานอาหารเช้าอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เช้านี้สั่งผัดคะน้าหมูกรอบกระเทียมพริกไทยใส่ปลาหมึกโป๊ะด้วยไข่ดาว เป็นเมนูคอนเทมต์ ประยุกต์ให้เกิดความอร่อย ตบท้ายของหวานด้วยคาราบาวแดงใส่น้ำแข็งเรียกความสดชื่นยามเช้าแทนการดื่มกาแฟ

ทานอาหารคาวหวานเสร็จแล้วท้องอิ่ม อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เตรียมตัวกลับไปนั่งเขียนหนังสือโพสทวิตเตอร์ ชีวิตงานรับจ้างปกติของฟรีแลนซ์​ อาชีพอิสระขึ้นอยู่กับคนจ้าง เรียกให้ดูหรูหราก็คือเป็นที่ปรึกษา
แต่จริงๆ ก็คือรับจ้าง คีย์เวริ์ดที่คลาสสิคถูกใจผมที่สุด แม้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะเกลียดคำว่าลูกจ้างและรับจ้าง แต่นั่นคือคำเรียกที่ตรงที่สุด

เกาเหลาหมู น้ำใจจากลุงดำ


"ผมกลับละลุงดำ" พร้อมกับยกมือสวัสดี วันนี้ลุงดำทำเกาเหลาให้ผมทาน ด้วยความมีน้ำใจเพราะมาทานทีไรผมมักจะมีคาราบาวแดงมาฝากแกแทบทุกเช้า  ผมถามลุงดำต่อ
"เป็นไงบ้างละลุงดำมีชีวิตอยู่ไปวันๆ " แกนั่งเหม่อลอยมองมองสายตาผ่านหม้อก๋วยเตี๋ยวที่ขายเลี้ยงชีพเป็นกิจกรรมยามแก้เหงา สลับกับการไปทำสวน
"ก็ใช่ใช้ชีวิตไปวันๆ ให้มีความสุข หาอะไรทำไป" เฒ่าผู้กรำศึกมากับชีวิต ชอบดูมวยไทยเช่นเดียวกับผม
อยู่ ๆ แกก็โพร่งพูดขึ้นมา
"โลกนี้คือละคร"
"อ้าวเพลงเก่านิลุงดำ ใครเป็นคนแต่งละแล้วร้องอย่างไร" ผมแกล้งถามลุงดำความจริงแล้ว
ผมร้องเพลงนี้ได้อย่างขึ้นใจ เพราะเป็นเพลงที่มีเนื้อหาไพเราะขอบอกว่าร้องได้ไม่ต่ำกว่า 26 ปีแล้ว
เคยคิดหลายครั้งว่าจะเล่นเปียโนแต่ก็ยังไม่มีโน้ต ในเวอร์ชั่นที่ผมฟังคือคุณสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นผู้ขับร้องไว้ แต่ผู้ประพันธ์คำรอง ทำนอง ผมไม่ทราบว่าเป็นใคร

"คนร้องหรือ ปรีชา บุณยเกียรติ"
"ผมไม่เคยได้ยินชื่อเลยลุงดำ"
"ดังมากเลยนะสมัยก่อน รุ่นเดียวกับสมยศ ทัศนพันธ์ , คำรณ สัมบุญญานนท์" ลุงดำตอบแบบคล่องในความทรงจำของแก
"แล้วลุงดำเคยฟังตอนอายุเท่าไหร่ ประมาณ 14-15 นี่แหละ"
ปัจจุบันลุงดำอายุประมาณ 77 ครับ"
"ร้องอย่างนี้ใช่ไหมลุงดำ โลกนี้ยิ่งดู ยิ่งดูเศร้าใจชื่อชีวิตไว หมุนเปลี่ยนผันไปเหมือนม่าน
ปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้งแล้วไม่นานเปิดผ่านเป็นความเศร้าใจ"
ผมร้องให้ลุงดำฟัง แกคงทึ่งเหมือนกับว่าทำไมผมร้องได้
"ผมชอบเพลงนี้มากนะลุงดำ ผมลากลับละขอกลับไปแสดงละครก่อน"
นั่นก็คือละครแห่งชีวิตของผม อ่านหนังสือเขียนหนังสือ โพสข้อความผ่านโซเชียลมีเดียตามที่ผู้ว่าจ้างมอบหมายมาให้ทำ ผมก็เล่นบทบาทชีวิตไป ตามชื่อหนังสือ ละครแห่งชีวิต ของหม่อมเจ้าอากาศดำเกิง เจ้าชายนักประพันธ์ ผู้เสียชีวิตไปกว่า 84 ปี แล้ว

หนังสือหม่อมเจ้าอากาศดำเกิงกับงานประพันธ์ จากห้องสมุดของผู้เขียน


กำลังเดินออกจากร้าน เจอคุณป้าภรรยาของลุงดำ
"กลับละคุณป้า ผมกลับไปแสดงละครต่อ"
"อ้าวละครอะไรละ"
"ละครแห่งชีวิตไง ผมกลับไปเป็นพระเอก ชื่อไตร"
แกก็หัวเราะขึ้นมา
ระหว่างเดินกลับบ้าน ผมก็นึกถึงเพลงโลกนี้คือละครขึ้นมา ผมชอบคำพูดนึงที่ว่า
ชีวิตจริงทุเรศยิ่งกว่าละคร ซึ่งก็คงเป็นความจริงชีวิตของเราทุกคนก็เหมือนกับบทละครที่เขียนขึ้นจากชีวิตและเลือดน้อย เพียงแต่ไม่ได้ร้อยเรียงเป็นตัวอักษร ซึ่งบางบทบางตอนก็ทุเรศบัดซับยิ่งกว่าละครเป็นไหน ๆ
เดินกลับมาถึงบ้าน นึกสงสัยในใจมาตลอดว่าคนแต่งเพลง โลกนี้คือละครเป็นใคร
มาถึงบ้านปั๊บวิ่งขึ้นไปห้องนอน หยิบเครื่องแม็ค เปิดเบราเซอร์กูเกิ้ลโครม ขึ้นมา พิมพ์
โลกนี้คือละคร ผู้แต่ง ความเร็วอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์อ๊อพติคของทีโอที เพียงอึดใจเดียวก็ได้คำตอบ ว่า ผู้แต่งเพลง โลกนี้คือละคร คือครูไพบูลย์ บุตรขัน บรมครูเพลงผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ผู้ประพันธ์เพลง มนต์รักลูกทุ่ม มนต์เมือง ค่าน้ำนม ชายสามโบสถ์ กลิ่นโคลนสาปควาย มนต์รักอสูร ฯลฯ
เมื่อผมทราบยิ่งนี้แล้วไม่แปลกใจเลยว่า คำร้องและทำนองเพลงโลกนี้คือละครถึงได้กินใจไพเราะ เข้าถึงความจริงของชีวิตขนาดนี้ โดยไม่ต้องไปเข้าวัดฟังธรรมะเลย ฟังเพลงนี้เพลงเดียวก็เข้าถึงธรรมะของพุทธเจ้าได้เฉกเช่นเดียวกัน ผมจริงของนำเนื้อเพลงมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน
และลองไปค้นยูทูบฟังเพลงนี้กันครับ
ระหว่างที่เขียนบล๊อคผมฟังเพลง โลกนี้คือละครไป 2 รอบ เวอร์ชั่นที่คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ร้องไว้
เดี๋ยวผมมีความสุนทรีย์เมื่อไหร่ เดี๋ยวจะเล่นเปียโนและร้องเพลง โลกนี้คือละคร เวอร์ชั่นของชีพธรรม คำวิเศษณ์ ให้ฟังให้ชมกับครับทาง www.youtube.com/trimemory


หนังสือคีตกวีลูกทุ่ง ไพบูลย์ บุตรขัน
วัฒน์ วรรลยางกูร เรียบเรียง


โลกนี้คือละคร
คำร้อง - ทำนอง ไพบูลย์ บุตรขัน

โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อนเปรียบเหมือนละครถึงบทเมื่อตอนเร้าใจ
บทบาทลีลาแตกต่างกันไป ถึงสูงเพียงใดต่างจบลงไปเหมือนกัน
เกิดมาต้องตายร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชังคิดยิ่งระวังไหวหวั่น
ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน ถือผิวชังพรรณบ้างเหยียดหยามกันเหลือเกิน
โลกนี้คือละคร บทบาทบางตอนชีวิตยอกย้อนยับเยิน
ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสนเพลินเหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน
โลกนี้นี่ดูยิ่งดูเศร้าใจชั่วชีวิตวัยหมุนเปลี่ยนผันไปเหมือนม่าน
ปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นานเปิดผ่านเป็นความเศร้าใจ


ไพบูลย์ บุตรขัน ประวัติผู้แต่งเพลงโลกนี้คือละคร



บันทึกชีวิต
ชีพธรรม คำวิเศษณ์
จันทร์ 11 ก.ค. 2559 

ความคิดเห็น