การฝึกมองอนาคตเพื่อเห็นภาพความสำเร็จ

Andy Rubin ผู้พัฒนาและก่อตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอย 
Cr.ภาพ theenterprisedaily.com

ถ้าเรารู้อนาคตได้ก็คงจะดี ทุกคนในโลกนี้คงจะประสบความสำเร็จหมดทุกคน
ในศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์อยู่กับปัจจุบัน ไม่ให้คิดถึงอดีตไม่ให้คิดถึงอนาคต แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติพิเศษก็คืออนาคตังสญาณ ก็คือการเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต ซึ่งก็หมายถึงผู้ที่ฝึกจิตขั้นสูงระดับหนึ่งแล้วจึงจะเห็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปเห็นไม่ได้
ทำได้อย่างไรเพราะว่าเราเองก็เป็นคนธรรมดา แต่ผมเชื่อว่าก็ต้องมีวิธีการครับไม่อย่างนั้นจะมีนักประดิษฐ์หรืออนาคตหรือคนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจทำในสิ่งที่คนอื่นยังไม่ทำเลยมองไม่เห็น


เช้านี้ผมอ่านเรื่องราวของแอนดี้ รูบิ้น ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักว่าเค้าเป็นใคร บารมีอาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับ สตีฟ จ๊อบ บิลเกต ลาร์รี่เพจ แห่ง กูเกิ้ล แต่เขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกก็คือเป็นผู้สร้างและพัฒนาแอนดรอยด์ระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือที่เปิดเผยรหัสหรือโอเพ่นซอร์สให้กับโลกทุกคนได้ไปใช้ก็ได้ หลังจากที่พัฒนาได้ไม่นาน  Google ก็เข้ามาซื้อกิจการแอนดรอยแล้วก็นำระบบปฏิบัติบนสมาร์ทโฟน แจกให้กับใครก็ตามบริษัทไหนก็ได้นำไปใช้พัฒนาต่อซึ่งเราก็เห็นกันอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะเป็น
ซัมซุง, เซี่ยวมี่, โซนี่ , เอซุส, เลโนโว, หัวเหว่ย จนกระทั่งมาถึงไอโมบายของเมืองไทย หรือแม้แต่ LAVA สมาร์ทโฟนของค่าย AIS ก็ใช้แอนดรอยทั้งนั้น หรือถ้าให้เห็นภาพชัดเจนว่าผู้ใช้เยอะขนาดไหน
ถ้าใครไม่ใช้ไอโฟน ก็แทบจะไช้งานแอนดรอยทั้งนั้น ก็มี วินโดวส์ และแบล็คเบอรี่ มาแจมบ้างเล็กน้อยพอเป็นน้ำจิ้ม ให้มีสีสัน นี่คือหนึ่งในตัวอย่างของผู้มองเห็นอนาคตสร้างระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนขึ้นมา

Larry Page ผู้ก่อตั้ง Google ปกนิตยสาร Forture ธันวาคม 2014 



ปลายปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ.2557) ผมได้อ่านเรื่องราวของ ลาร์รี่ เพจ ผู้ก่อตั้งบริษัท Google ซึ่งเขาได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์จูนว่าเป็นนักธุรกิจยอดเยี่ยมแห่งปี 2014  นิตยสารฟอร์จูนได้สัมภาษณ์และรายงานซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากว่าทำไมราริ Pages ถึงซื้อแอนดรอยด์มาแล้วแจกให้กับทุกคนได้ใช้งานฟรีใครจะไปทำอะไรก็ได้ ลาร์รี่บอกว่าเห็นโอกาสจากสมาร์ทโฟนและพฤติกรรมของคนในโลกนี้ที่จะใช้สมาร์ทโฟนกับชีวิตและการทำงานประจำวัน เขาคิดว่าความเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่จะมาถึง ทำให้ Google
หารายได้จากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และสมาร์ทโฟนพร้อมกับแอพต่างๆที่สามารถขายได้
อีกหนึ่งตัวอย่างของวิสัยทัศน์ที่เราทุกคนสัมผัสได้และใช้งานด้วยสมาร์ทโฟนของเรานี่คือเบื้องหลังครับก็ลองคิดดูว่าบริษัท Google ได้เงินจากทางโลกไปมากขนาดไหนและปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีมุระค่ามากที่สุดในโลกแซงหน้า Apple ไปแล้ว

ผมมีความเชื่อว่าการรู้มองให้เห็นถึงอนาคตทุกอย่างเกิดจาการฝึกและสัญชาติญาณ
ไทม์ไลน์ของชีวิต หนังสือที่ท่านอ่าน บุคคลที่รู้จักจะเป็นตัวบ่งบอกถึงอนาคต
สตีฟ จ๊อบผู้ก่อตั้ง Apple พูดถึงเรื่อง Conneting the dot จุดเชื่อมโยงในอดีตที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในอนาคต


การอ่านเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด อ่านอะไร อ่านจากคนที่ประสบความสำเร็จ
อ่านจากคนที่ล้มเหลวโลกยุคใหม่แข่งขันที่อนาคต หรือมีวิธีการลอง
ฝึกคิดเล่นๆ ก็ได้ ตัวอย่าง 4G เกิดขึ้น สมาร์ทโฟน 100 ล้านเครื่องในเมืองไทย อนาคตอะไรจะเกิดขึ้น
โลกการอ่านที่เปลี่ยนไป การเป็นอ่านดิจิตอล สายตาที่ใช้มากขึ้น จะมีสินค้าและอุปกรณ์แบบไหนมาช่วยรักษาดวงตา แต่สำหรับผมซึ่งเป็นสื่อสารมวลชน, อาจารย์และนักเขียนก็คงหาข้อมูลมานำเสนอ


ที่เขียนมาก็เพื่อจะบอกเล่าว่า ผมก็ใช้วิธีการฝึกมองอนาคตด้วยการอ่าน เป็นอะไรที่ง่ายที่สุด
แล้วมองออกไปในโลกกว้าง การอ่านภาษาอังกฤษ จะช่วยเปิดโลกใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
โลกที่หมุนเร็วขึ้นทำลายสิ่งที่ทันสมัยให้ล้าสมัยได้อย่างรวดเร็ว และแทบไม่มีใครสนใจ
ตัวอย่าง โทรศัพท์ Blackberry


แอพยังมีการอัพเดททุกวัน ไม่ว่าแอพนั้นจะดีขนาดไหน แม้แต่ Facebook ก็ยังอัพเดทและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมารองรับความเปลี่ยนแปลงของอนาคต
ความคิดสร้างสรรค์เกิดใหม่ ได้ทุกวัน โอกาส เกิดใหม่ตลอดเวลา
มนุษย์มีความต้องการอยู่ตลอด ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ทุกข์สุขเกิดดับ
ชีวิตเราจะไปยืนยู่ตรงไหนในอนาคต ผมคิดว่าเรากำหนดได้
โลกนี้มีกระบวนการอยู่แล้ว Data > information > knowlegde



คำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา สสวท. 


ผมได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์ ให้กับ
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
เมื่อเข้าไปสอนหนังสือและให้คำปรึกษา ผมรู้ทันทีเลยว่า สิ่งที่ สสวท.มีอยู่  บางเรื่องถูกโลกปัจจุบันและอนาคตทำให้ล้าสมัย หรือ แม้ นักวิชาการ ผู้มี ผศ.ดร. นำหน้า สิ่งที่สอนอยู่หรือเขียนอยูกำลังจะตีพิมพ์ นั้นล้าสมัยแทบไม่เป็นประโยชน์กับโลกปัจจุบันและอนาคตเลย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงให้ทันมากที่สุด ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนก็พยายามอยู่ รวมถึงตัวของผู้เขียนเอง


แล้วถามว่าคุณเป็นใครกล้าดีมาพูดเขียนอย่างนี้ ผมเป็นสื่อสารมวลชนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมา 20 ปี แล้ว และยังคงเป็นอยู่ผมรู้ว่าอันไหนใหม่เก่าเป็นประโยชน์กับสังคมหรือไม่ เพราะก่อนจัดรายการวิทยุผมจะทำวิจัยส่วนตัวว่าเรื่องไหนเป็นกระแสสังคมและนำไปใช้งานกับชีวิตเลยได้หรือไม่ ไม่ใช่ฟังผ่านๆ เอาสนุก

ผู้เขียนกับงานวิทยุ 



ความล้มเหลวเป็นมารดาของความสำเร็จ
ผมและครอบครัวผ่านจุดนี้มาเยอะมาก
สังคมไทยและประเทศไทยกำลังเรียนรู้หลายเรื่อง
ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่กำลังเผชิญหน้ากับอนาคตที่คนไทยต้องเรียนรู้อดีตไปด้วยกัน
และป้องกันไม่ให้ความบอบช้ำเกิดจากการปกครองของบางระบบที่โลกได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นอุปสรรค
ต่อการพัฒนาประเทศและระบอบประชาธิปไตยที่การปกครองต้องมาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน


การหลอมรวมระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับสมาร์ทโฟน คือการแอพที่ใช้บนสมาร์ทโฟนได้สามารถใช้บนคอมพิวเตอร์ได้นี่ก็เป็นอนาคตอย่างหนึ่ง ที่กำลังจะทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรียนรู้การใช้งานกันอีกครั้งหนึ่งในอีกไม่นานนัก


เขียนไว้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การฝึกมองอนาคตเพื่อให้เห็นภาพความสำเร็จ


ชีพธรรม คำวิเศษณ์

อาทิตย์ 12 มิถุนายน 2559

ความคิดเห็น