ซ่อมความรักวันวาเลนไทน์ และ #RomanticThailand


หนังสือ Why We Love อ่านบน Kindle 


Being in love is a universal human experience ; It is part of human nature.
การตกหลุมรักมีความรักคือประสบการณ์ของมนุษย์ในจักรวาลที่ต้องได้สัมผัสซึ่งเป็นธรรมชาติที่ทุกคนต้องพบ


สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักของผมทุกท่านในวันวาเลนไทน์ อาทิตย์ 14 กุมภาพันธ์ 2559
ข้อความข้างต้นผมนำมาจากหนังสือ Why We Love ? ผู้แต่งคือ ดร. Helen Fisher
เป็นนักวิจัยด้านความสัมพันธ์ คลิปของเธอใน TED ได้รับความนิยมดูหลักล้าน
ผมตั้งคำถามกับบล๊อควันนี้ เราจะซ่อมความรักวันวาเลนไทน์ได้หรือไม่

ข้อความการมีความรักเป็นประสบ



ผมเพิ่งกลับจากสอนโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้กับสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์
เพื่อเป็นความสนุกสนานในการเรียนกับผู้เข้าอบรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุข
วัยกลางคนขึ้นไปผู้เข้าอบรมก็ประมาณ 90 คน คำถามคือ “ใกล้วาเลนไทน์แล้วมีใครอยากตกหลุมรักมีบ้างไหม่ครับ”  บรรยากาศในห้องเงียบไปพักนึง ผู้เข้าอบรมเหมือนกับกำลังตรึกตรองอะไรอยู่ แล้วก็มีผู้ยกขึ้นมา
“อยากตกหลุมรักอีกครั้งคะ”
“อ้าวทำไมละครับทุกวันนี้ไม่ดีหรือ”
“อยากมีความสุขเหมือนหนุ่มสาวอีกครั้ง”
ผู้ตอบเป็นหญิงวัยกลางคน



ผู้เขียน (เสื้อส้ม) ก่อนอบรมสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์




ผมกวาดสายตากไปรอบๆ ห้อง มีผู้ยกมือขึ้นอีก ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ยื่นไมโครโฟนถามเธอว่า
“ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครับ”
“ไม่แล้วคะ พอกันที ความรัก”
เรียกเสียงหัวเราะสนุกสนานได้ในห้อง ช่วยให้ทุกคนมีความสุขขึ้น

อบรมประชาสัมพันธ์ดิจิตอลแบบเมามันส์มาก 




คำถามของผมเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีก เพราะเรามาเรียนหนังสือเกียวกับเรื่องการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อสุขภาพและประชาสัมพันธ์ด้วยครับ  
“เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพมีใครในห้องนี้อยากปรับปรุงเรื่องเซ็กซ์บ้างครับ”
เงียบกันไปอีกสักพัก ก็มียกมือบ้าง มีเสียงหัวเราะสนุกสนาน เพิ่มบรรยายกาศในการเรียน


ครับนั่นก็เป็นเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทดสอบว่าถ้าพูดถึงความรักเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนเคยสัมผัส


ผมกำลังมีความสนใจด้านทฤษฏีความรักและความสัมพันธ์ว่าทำไมเราจึงต้องหลุมรัก
ทำอย่างไรให้คนตกหลุมเราได้อย่างรวดเร็ว ทำอย่างไรให้ซ่อมแซมความสัมพันธ์ความรักและชีวิตการแต่งงาน


ผมเคยมีแฟน และแต่งงานมาแล้ว คบ ๆ เลิก ๆ  มีความรัก ลุ่มหลง เหมือนคนที่เป็นมนุษย์ธรรมดา
แต่ผมเองก็ไม่เคยได้ศึกษาเรื่องความสัมพันธ์แบบความรักอย่างเป็นวิชาการจริงๆ
เมื่อโลกทุกวันนี้มาถึงโซเชียลมีเดียคนเรามีความรักและความสัมพันธ์กันรวดเร็วมากขึ้นในแบบหนังสือ Modern Romance , Why We love , 100 Simple Secrets Great Relationships

ตำรับตำราด้านความสัมพันธ์บนแอพ Kindle ของผู้เขียน



ความรักคืออะไร เราเคยลองถามกันด้วยตัวเองหรือไม่ ส่วนมากแล้วขึ้นต้นด้วยความสุขลงท้ายด้วย
ความเศร้า ได้รับผลร้ายเป็นปลายทาง  มีวิธีไหนบ้างที่เราจะเพิ่มจะความความสุขแบบ Romantic Lover ลงไป ซึ่งผมเองก็กำลังศึกษาอยู่  ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นพวกคัมภีร์เปล่าหรือไม่


การซ่อมความสัมพันธ์ในความรักเป็นเรื่องน่าค้นหาและน่าสนใจมาก ๆ  ในสังคมไทยของเรายังมีหนังสือและองค์ความรู้ในเรื่องนี้ยังไม่เยอะมาก ถึงแม้มีเยอะแล้วก็ไม่รู้จะทำได้จริงหรือเปล่า เพราะสังคมเรายังไม่ได้เปิดเผยและยอมรับเกี่ยวกับเพศศึกษามากนัก แต่ก็ดีขึนเรื่อยๆ และความรักจะแบ่งแยกประเภทของกลุ่มคู่รักไปเรื่อยๆ อีกครับ


ความรักซ่อมแซมได้หรือไม่ เพราะคู่รักบางคู่ไม่ไหวแล้วจริงๆ อยากจะเลิกแยกทางกันไปด้วยความเบื่อ อาจอยู่กันมานานความอ่อนหวานได้อันตรธานหายไปหมดแล้วเรียกกลับมาไม่ได้



เว็บไซค์ Romanticthailand ของ ททท. น่าสนใจมาก




แคมเปญใหม่ของ ททท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคือ Romantic Thailand ซึ่ง ททท.ได้ทำเว็บไซค์ขึ้นมาเพื่อโปรโมทให้เมืองไทยเป็นประเทศสำหรับคู่รักมาเพิ่มความสัมพันธ์ในความรัก
ผมอยากให้เข้าไปชมเว็บไซค์  http://romanticthailand.tourismthailand.org/th/


ภายในเว็บไซค์ได้แบ่งเป็นหัวข้อ In love, Wedding, Honeymoon, Anniversary ซึ่งเป็นเรื่องของประเภทความสัมพันธืได้อย่างลงตัว การตกหลุมรัก , การแต่งงาน , ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ และการเฉลิมฉลองความรัก


ความรักเป็นจุดเริ่มต้นของหลายสิ่ง เมื่อวานวันเสาร์ผมจัดรายการวิทยุ FM101 เล่าความรักในมุมของผมให้กับผู้ฟังทางวิทยุ ความรักทำให้เกิดข่าวหน้า1 ในหนังสือพิมพ์, ความรักทำให้เกิดสถาปัตยกรรม, ความรักทำให้เกิดบทกลอน นิยาย ภาพยนตร์ , ความรักทำให้เกิดบทเพลง และ ความรักทำให้ก่อเกิดชีวิตมนุษย์เพื่อดำรงเผ่าพันธ์


ในหลวง ร.6 ทรงพระราชนิพนธ์ มัธนะพาธา


ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย


และเมื่อผมยังเป็นวัยรุ่นสมัยมหาวิทยาลัย ปี 1 พ.ศ.2535 เมื่อครั้งยังเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ  ผมได้อ่านหนังสือปีกหัก ของคาริล ยิบราล นักเขียนชาวเลบานอน
แปลโดย ดร.ระวี ภาวิไล เป็นบทสนทนาเหมือนกับนักบวชคุยกับลูกศิษย์โดยมีลูกศิษย์ของท่านถาม


ผมจะขอเขียนเล่าตามความทรงจำที่ยังจำได้ครับซึ่งครั้งนั้นเวลาผมเป็นหนุ่มน้อย ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่เมื่อผมมีอายุมากขึ้นและเป็นหนุ่มที่เหลือน้อย ผมมีความเข้าใจมากขึ้นกับความรักและความสัมพันธ์


ท่านอาจารย์ขอให้เล่าถึงความรัก อาจารย์ตอบว่า เธอจะได้เรียนรู้ความเจ็บปวดอันเกิดจากความอ่อนโยนละมุนละไม


เมื่อมาถึงบทแต่งงานซึ่งน่าสนใจมากครับ ลูกศิษย์ได้ถามอาจารย์  น่าสนใจมากครับ


คู่รัก จงเติมกาแฟให้แก่กัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยด้วยกัน
จงทำตัวประดุจสายพิณ แม้คนกันคนละเส้น แต่เมื่อดีดแล้วเป็นเสียงเดียวกัน
จงทำตัวประดุจเสาร์วิหาร แม้อยู่กันคนละต้น แต่อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน


หลังจากที่ผมอ่านเวลานั้นผมไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร เมื่อเวลาผ่านไปเข้าใจชีวิตมากขึ้น ผมนึกถึงบทกลอนเปล่าจากหนังสือปีกหัก และได้คำตอบกับตัวเอง นั่นก็คือพื้นที่ความเป็นส่วนตัว ของแต่ละคู่รักที่ต้องมีให้แก่คน
ซึ่งก็คงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของความรัก


ซ่อมความรักวันวาเวนไทน์ ซึ่อได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคู่รักทั้งสองคนว่าอยากจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ในความรักหรือเปล่า พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ที่ไหนมีรักที่นั่นมีทุกข์  ซึ่งจะหรือไม่ ในโลกของโซเชียลมีเดียทุกคนมีความเห็นซึ่งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

สุดท้ายนี้ถ้าหากท่านใดมีความรักแล้วก็ขอให้ราบรื่น สุขสมหวังทุกประการ​ และอย่าได้มีความทุกข์อันเกิดจากความรัก เพราะนั่นให้ผลรุนแรงมากกับร่างกายและจิตใจ อาจส่งผลไปถึงบุคคลในครอบครัว ขอให้มีความรักอย่างมีความสุขครับ

อ่านปิดจอขอเชิญชมคลิปเรื่อง The Brain in Love ของ​ ดร. เฮเลน ฟิชเชอร์ ครับ 




ชีพธรรม คำวิเศษณ์ 

ความคิดเห็น