อยากเขียนเรื่อง การโฆษณาผ่าน Instgram และ Facebook



                                               หน้าจอในระบบ Facebook ในการโฆษณาบน IG

ตื่นเช้ามาผมไม่รู้จะเขียนอะไร แต่ก็อยากจะสร้างนิสัยในการเขียน เพราะท้ายที่สุดของชีวิตผมอยากเป็นนักเขียน ตามทฤษฏีการเขียนในหนังสือ เขียน ของ อ.พิมาน แจ่มจำรัส ซึ่งท่านได้รวบรวมมาจากนักเขียนชื่อดังระดับโลกหลายคนได้ให้ข้อคิดในการเขียนเป็นอย่างดี เช่นบอกว่า ใช้ความโกรธ ความรู้สึกที่กดดัน น้อยเนื้อต่ำใจ เศร้า เหงา รัก สิ่งเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อนักเขียน ให้นำออกมาเป็นตัวหนังสือให้ได้


                     อ.เสก (วิทยา มาลารัตน์) อาจารย์ผู้สอนการโฆษณา Facebook อันดับหนึ่งของประเทศไทย


เช้านี้ผมก็เลยเปิดบทเพลงเปียโนของโชแปงบนแอปเปิ้ลมิวสิค ฟังเพลงเดี๋ยวนี้ อยากฟังอะไรก็ได้ฟังเช่าเป็นรายการ แล้วก็ลงมือเขียนทั้งที่ไม่อยากจะเขียนอะไร ก็แปลกดีครับ เขียนทั้งที่ไม่อยากเขียนอะไร แต่เขียนของผมก็คือพิมพ์ลงไปในเครื่องแมค เครื่องคอมพิวเตอร์ตัวเก่งของผมนั่นแหละครับ เปิดแอพ Day one เป็นแอพบันทึกความทรงจำ คิดอะไรได้ก็เขียนใสลงไปในแอพ มีทั้งบนไอโฟนและเครื่องแมค

สิ่งที่ผมอยากเขียนลงไปก็คือ ไปฟังการสัมมนา เจาะลึกการโฆษณาในเฟซบุ๊ซ โดยอาจารย์วิทยา มาลารัตน์ มือวางอันดับหนึ่งเรื่องการสอนโฆษณาด้วยเฟซบุ๊ค สอนเป็นรุ่นที่ 24 แล้ว เมื่อวันเสาร์ 28 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา ด้วยความที่รู้จักกันมานานก็เลยมาพักที่บ้านแล้วก็ขอติดไปฟังด้วย

ความน่าสนใจของการลงโฆษณาในเฟซบุ๊คก็คือ โลกปัจจุบันเครื่องมือทางการตลาดสามารถทำได้ด้วยตนเอง อยากขายอะไรก็ขายลงไป แล้วก็โฆษณา
เมื่อใครเล่นเฟซบุ๊คได้แล้วชอบการค้าขายก็เปิดเว็บไซค์หรือแฟนเพจขายสินค้าแล้วก็ลงโฆษณาไปเลย การซื้อโฆษณาก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรแต่ก็ต้องมีเทคนิคนิดหน่อยไม่งั้นก็จะกินเงินของเราไป

ผมได้เรียนรู้การลงโฆษณาผ่านอินสตาแกรมซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม ผมเองใช้ IG บัญชีชื่อ @tri333 มีผู้ติดตาม 2,157 ท่าน ผมก็โพส IG เกือบทุกวัน แต่เป็นเรื่องส่วนตัวไม่มีค้าขายอะไร แต่โลกการค้าทุกวันนี้เศรษฐกิจดิจิตอลพ่อค้าแม่ค้าเป็นวัยรุ่นกันทั้งนั้น บางคนที่ผมรู้จักไม่ได้จบบริหารธุรกิจจากสำนักไหนมาเลย เผลอๆ ยังไม่จบ ปวช , ปวส ด้วย แต่ก็ทำมาหากินขายของกิ๊ฟช๊อบผ่านไอจีดูแลตัวเองและครอบครัวได้   ซึ่งการลงโฆษณาบน IG ก็อยู่ในหน้าเดียวกับการลงโฆษณาด้วยเฟซบุ๊ค




                                             ระบบข้อมูลประชากรของเฟซบุ๊คที่จะเห็นโฆษณา


สิ่งที่ผมได้เข้าไปฟังอาจารย์วิทยาและเรียนรู้จากผู้เข้าอบรมสัมมนา ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าการเพิ่มยอดขายแบบทันทีทันใดกระตุ้นให้คนซื้อต้องใช้ลักษณะของ Paid Media คือจ่ายเงินซื้อสื่อไปเลย  ซึ่งต่างจากสิ่งที่ผมสอนก็คือโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์คือการเผยแพร่แบบ Earned Media หรือฟรี นั้นต้องอาศัยฝีมือและสายสัมพันธ์
แต่ผลที่ได้มานั้นคนละแบบ แต่ทั้งสองอย่างนั้นก็ต้องควบคู่ไป



                                   บรรยากาศในการอบรมโฆษณาเฟซบุ๊ครุ่น 24 ที่ ม.เกษตรศาสตร์


ผมได้เรียนรู้ว่าคนหนึ่งคนทำธุรกิจนั้นบางคนเปิดเฟซบุ๊คแฟนเพจ หลายสิบแฟนเพจ เขาอาจขายสินค้าเดียวแต่ในหลายแฟนเพจ หรือ เปิดแฟนเพจหลายสิบแฟนเพจในสินค้าที่แตกต่างกัน  บางคนใช้เครื่องมือ  Facebok Power ad Editor บริหารแคมเปญสินค้าและบริการนับเป็นสิบๆ แคมเปญจากสายตาของผมที่นั่งฟังและนั่งมองผู้เข้าอบรมที่ได้เปิดตามขั้นตอนที่อาจารย์​วิทยาสอนไป สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการผสมผสานระหว่าง 3 สื่อ ก็คือ สื่อของเราเอง, สื่อที่ต้องซื้อ และ สื่อที่คนนำไปบอกต่อ เขียนเป็นสมการสูตรออกมาที่ฝรั่งชอบพูดกันก็คือ

Owned Media
Paid Media
Earned Media

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมมีต่อไปอีกมากมายว่า คนที่มานั่งเรียนบางคนมีธุรกิจนับสิบล้าน เฟซบุ๊คได้สิ่งเสริมให้เขาได้เพิ่มยอดขายมากขึ้น แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เฟซบุ๊คปรับเปลี่ยนระบบที่ทำให้คนเห็นโฆษณาลดน้อยลง ต้องมาเรียนเทคนิคใหม่ๆ  คนที่เก่งคนที่รวย เรียนรู้มากกว่า ขยันมากกว่าในหานำเทคโนโลยีใหม่ๆ  มาประยุกต์กับชีวิตและธุรกิจ ซึ่งโลกนี้มีแต่เปลี่ยนแปลงและเดินหน้าต่อไปเสมอ



ขอจบลงการเขียนไปพร้อมกับบทเพลงอาจารย์เสกกับผมเล่นเปียโนร้องเพลงของบทเพลงไม่ตายหลอกเธอของวงโลโซครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันอาทิตย์






ความคิดเห็น