ชีวิตของผมบนเส้นด้ายกับรัฐบาลการประกันความสุขของราษฏรฝันที่รอคอย






ย้อนหลังไป 16 ปีที่แล้ว ผมเคยมีอาชีพเป็นข้าราชการรัฐวิสหากิจ ช่อง 9 อสมท. แต่ด้วยความเฮี้ยนของผมในการอยากจะทำธุรกิจ Start Up แบบที่เขากำลังฮิตๆ กันอยู่วันนี้ ผมจึงลาออกมาหลังจากรับราชการไปแล้ว2 ปี ในขณะที่กำลังเป็นพิธีกรรายการทีวี ซึ่งการลาออกครั้งนั้น ก็ทำให้ผมไม่ได้กลับไปออกทีวีในช่องรายการแบบช่อง 9 อีกเลย ไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิดแต่เมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ต้องเดินหน้า


ซึ่งที่ได้เรียนในชีวิตเพิ่มเติมในแบบที่มหาวิทยาลัยชีวิตไม่ได้สอนรู้ด้วยตัวเองก็คือ ความมั่นคงในอาชีพราชการและรัฐวิสาหกิจ ถึงวันไหนไม่มีเงินสดหมุนเงินใช้ในชีวิตประจำวันไม่ทัน ก็ชึ้นไปเบิกสหกรณ์ อสมท.ได้ แล้วก็ค่อยๆ ทะยอยใช้  อยากได้เงินกู้ก็มีเงินกรุงไทยธนวัตร กู้กับธนาคารกรุงไทยในฐานะเป็นข้าราชการ แต่ภายหลังลาออกมาแล้วราษฏรเต็มขั้นทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ความมั่นคงของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก ผมไม่มีสวัสดิการอะไรรองรับเลยเหมือนกับข้าราชการซึ่งในตอนที่ลาออกก็ไม่ได้มีแผนพวกนี้รองรับอาจจะอายุน้อยไปหรือเราไม่มีการวางแผนในชีวิตที่ดีพอ
ในใจลึก ๆ ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งในประเทศไทย อยากให้ประชาชนอีกหลายล้านคนที่เป็นเพื่อนร่วมชาติของผมได้มีสวัสดิการอะไรดีๆ เหมือนอย่างกับข้าวราชการบ้าง 

  ดร.ปรีดี พนมยงค์ ผู้เสนอแนวคิดประกันความสุขราษฏร

ในสมัยก่อนที่ท่านปรีดี พนมยงค์ ผู้อภิวัฒน์ 2475 เคยนำหลักการเรียกว่าการประกันความสุขให้กับราษฏรไม่ต้องมีอะไรมากขอให้มีกินมีใช้มีความสุข

ขอยกอีกตัวอย่างใกล้ๆตัวผมเลยครับ พ่อผมเป็นข้าราชการเกษียณเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้เงินเกษียณรายเดือน เดือนละ 20,000 บาท คุณพ่อเกษียณมาแล้ว 11 ปี ทุกวันที่ 20 ของทุกเดือนก็จะมีเงินเข้ามาในบัญชี ส่วนแม่ผมเป็นนักธุรกิจสไตล์แม่บ้านไม่มีสวัสดิการราชการรองรับได้เดือนละ 600 บาท
แค่บุคคลในบ้านก็มีความแตกต่างกันอย่างยิ่งในทางการเงิน ส่วนลูกชายตัวผมก็มีอาชีพอิสระได้มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ใครจะจ้างไปทำงานครับ

ผมเคยได้ไปสอนหนังสือโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้กับประกันสังคมมาจากทั่วประเทศเรียนรวมกันทีกรุงเทพ สมัยก่อนก็ไม่ค่อยได้สนใจประกันสังคมเท่าไหร่เพราะคิดว่าตัวเองสามารถซื้อประกันชีวิตประกันสุขภาพได้ แต่หลังๆ นี่ผมมีความสนใจเรื่องประกันสังคมมากขึ้นและอยากให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญ พรรคพวกในประกันสังคมได้ออกไปเยี่ยมประชาชนที่เป็นผู้ประกันตน และผมก็เลยอยากจะเผยแพร่กิจกรรมของประกันสังคมในการดูแลประชาชนซึ่งถือว่าเงินที่ประกันตนถึงจะไม่ได้มากมายสำหรับผู้มีอันจะกิน แต่เงินจำนวนนั้นยังชีพให้กับพวกเขาได้บรรเทาความทุกข์อยากที่เกิดขึ้นในชีวิต 



น้อง ๆ ที่ทำงานส่งกรณีศึกษาที่ประกันสังคมได้ให้การดูแลพี่น้องประชาชนซึ่งก็น่าปลื้มใจและผมก็อยากเผยแพร่ให้ได้รับทราบกันคับ



  ประกันสังคมลงเยี่ยมพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
 
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.58 นายโกวิท สัจจวิเศษ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม   พร้อมผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม และเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดกาญจนบุรีลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประ กันตนที่ทุพพลภาพในกิจกรรม ประกันสังคมมอบสุข ชื่อ นายสามารถ จันทร์แจ่มใส ผู้ประกันตนทุพพลภาพในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ที่ทุุพพลภาพเนื่องจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถแท๊กซี่ ส่งผลให้แขนขาขวาอ่อนแรง เดินไม่ได้ กระโหลกศีรษะยุบ พูดไม่ชัด ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ ซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่ได้รับการอนุมัติเป็นทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2537 - 29 มีนาคม 2542 ได้รับสิทธิตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่4) พ.ศ.2558 ทำให้ได่รับเงินทดแทนการข าดรายได้เดือนละ 3,217.50 บาท บาทตลอดชีพ




ไปที่จังหวัดปทุมธานี คุณยายท่านนี้อายุ 64 ปี
คนนี้ไม่มีลูก สามีตาย
คนนี้ถูกทำร้ายร่างกาย ทำให้ศรีษะได้รับความกระทบกระเทือน
ตาบอด ข้างขวา แขนขาข้างขวาอ่อนแรง ได้เงินเดือนละ 2,433 บาท จากประกันสังคม



  คุณยาย ชาว จ.ปทุมธานี




ชรินทร์ ก่ำการยุทธ อายุ 50 ปี
ได้รับเงินทุพพลภาะเดือนละ 3660 บาท

คนนี้อุบัติเหตุรถเสียหลัก รถคว่ำ ขณะไปทำงาน ทำให้กระดูกต้นคอแตกกดทับเส้นประสาท 
ทำให้ ความรู้สึกตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไปถึงเท้าไม่มีความรู้สึก 
ตอนนี้อยู่กับน้องสาวว ไม่มีลูก ไม่มีเมีย 
ต้องนอนหงายๆ คว่ำๆ





ขอให้คุณชรินทร์ สุขภาพแข็งแรงขึ้นครับ


หน่วยงานประกันสังคมก็เป็นส่วนหนึ่งของการประกันความสุขให้กับราษฏร  ผมเองก็คิดว่านอกจากจะทำประกันชีวิตแล้วก็ต้องไปทำประกันสังคมเพื่อเป็นประกันความสุขให้กับชีวิตของตนเองครับ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นนักจัดรายการวิทยุ อาจารย์สอนและที่ปรึกษาโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์แต่ในความเป็นจริงแล้วความมั่นคงในชีวิตของผมก็ไม่ต่างจาก พ่อค้าไข่ปิ้ง ตั๊กแตนทอด ปลาหมึกปิ้ง รถขายผลไม้ รถเข็นส้มตำ หมอนวดไทย คนขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มอเตอร์ไซค์ส่งเอกสาร  นักมวยไทย นักมวยสากล คนขายพวงมาลัย เกษตรกร นักเขียน ศิลปิน ฯลฯ อาชีพอิสระรับจ้างทั่วไป เท่าเทียมกันอย่างยิ่งครับ  เขียนมาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าวันหนึ่งประชาชนไทยทุกคนจะมีสวัสดิการดีเหมือนกับข้าราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงในระบอบประชาธิปไตยอันจะมีมาในอนาคตข้างหน้าครับ






ชีพธรรม คำวิเศษณ์ ผู้เขียนบล๊อค



ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุขปราศจากโรคภัย ไข้เจ็บ สรรพอันตรายเงินทอง มีความมั่งคั่งแข็งแกร่งทางด้านเงินทอง มีความสุขทุกอย่างตามความปรารถนาทุกประการครับ

  


ความคิดเห็น