ตึกจักรพงษ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จันทร์ 23 มีนาคม 2558 ตื่นเช้ามาผมเปิดอีเมลขึ้นมาอ่านข้อความว่า ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์ สาขาศาลาพระเกี้ยวจะทำการเปิดอย่างเป็นทางการหลังจากปรับปรุงมาหลายเดือน ในฐานะที่ผมเป็นสื่อสารมวลชนสัมภาษณ์แนะนำหนังสืออกทางรายการวิทยุ บางครั้งก็ไปให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียบ้างและที่สำคัญผมเป็นลูกค้าของศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ได้รับความสะดวกอย่างมากในการซื้อหนังสือ
เซลฟี่กับตึกจักรพงษ์
หลังจากพิธีเปิดอย่างเป็นทางการจบลง ผมก็ไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวกับคุณทรงยศ สามกษัตริย์ ผู้จัดการศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่โรงอาหาร คุยกันออกรสชาติในเรื่องต่างๆ แลกเปลี่ยนกัน หลังจากนั้นก็ร่ำลา ความตั้งใจของผมจะมุ่งหน้าไปที่คณะศิลปศาสตร์ เพื่อลองค้นหาโน้ตเพลงไทย ระหว่างที่ผมเดินออกมามุ่งหน้าไปคณะศิลปศาสตร์ซึ่งอยู่อีกฝั่งเดียวกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ระหว่างที่เดินอยู่นั้นใจของผมคิดย้อนอดีตไปเมื่อปี พ.ศ. 2551 เมื่อครั้งไปเที่ยวมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด , เอ็มไอที ,โคลัมเบีย , วาร์ตันสคูล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ มหาวิทยาลัยเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าแคมปัสทัวร์ คือการท่องเที่ยวแบบการศึกษาคือเดินพาเที่ยวในมหาวิทยาลัย โดยมีนักศึกษาเป็นผู้พาเดินชมพร้อมกับเล่าถึงความเป็นมาของตึกสถานที่ ห้องสมุด ประว้ติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังมหาวิทยาลัย ตัวอย่างเช่นที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักศึกษาได้ชี้ไปที่ตึกแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วบอกว่าตึกนั้นเคยเป็นที่พักของอดีตประธานาธิบดี แฟรงคลิน รูสเวลท์ เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาอยู่
ผู้เขียนแคมปัสทัวร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
วัฒนธรรมการท่องเที่ยวสถาบันการศึกษาเป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวชาวอเมริกันและสิ่งที่ผมเห็นกับตาก็คือที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้พานักเรียนในวัยประถมมัธยมเดินเที่ยวกับเต็มไปหมด ถ้ามองในเชิงธุรกิจได้เงินเข้าประเทศด้วย มหาวิทยาลัยขายของที่ระลึกได้ เป็นการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยไปด้วย แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่มีวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแบบแคมปัสทัวร์ซึ่งผมเองอยากเสนอให้มีขึ้นในประเทศไทยของเรา
พระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาล
อากาศวันนั้นที่จุฬาฯค่อนข้างร้อน ผมเองก็ไม่ใช่ศิษย์เก่า เมื่อนึกขึ้นถึงแคมปัสทัวร์แล้วก็ลองทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว ถึงแม้จะร้อนแต่ต้นไม้ภายในสถาบันค่อนข้างเยอะ เดินจากศาลาพระเกี้ยวมาได้นิดนึง
ผมเห็นตึกจักรพงษ์ ชักภาพออกมาเซลฟี่หน่อย ผมนึกในใจว่า “ตึกนี้มีความสำคัญอย่างไรกับพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์หรือเปล่าหนอ เพราะตึกสร้างในปี พ.ศ. 2497 คงต้องมีแน่นอนแต่จะมีอย่างไรใครจะเป็นผู้อธิบายได้” ในที่สุดผมก็มาถามอาจารย์ประมุข หอประสาทสุข ท่านศิษย์เก่าภาควิชานิติศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์ฯ ในช่วงปี 2514 “ตึกนั้นสมัยก่อนเป็นตึกทำกิจกรรมของนิสิตจุฬาฯ และมีบทบาทกับช่วง 14 ตุลาคมด้วย” ผมหยิบเจ้าของไอพอดทัชขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ตัวเอง ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวจินตนาการเหมือนเที่ยวมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
ความเขียวในฤดูร้อนเหมาะกับแคมปัสทัวร์
จากนั้นก็เดินลัดเลาะเดินไปอีกนิดเห็นหอประชุมจุฬาลงกรณ์ ฯ เดินตัดออกไปที่สนามฟุตบอลแวะเคารพพระบรมรูป 2 รัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานและองค์อุปถัมถ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาล้ย ซึ่งในปี พ.ศ.2559 จุฬาลงกรณ์จะมีอายุครบรอบ 100 ปี ผมเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ ชมพิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , ตึกคณะอักษรศาสตร์ ซึ่งดูคล้ายกับวัด จริงๆ แล้วมีหลายคณะมากครับที่กระจายกันอยู่บริเวณนั้น คุณพ่อคุณแม่และนักเรียนน่าจะมาเดินเที่ยวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้ได้เรียนในสถาบันการศึกษา
ก่อนหน้านี้ผมก็ได้มีโอกาสไปแคมปัสทัวร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สถานที่แห่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ทางการเมือง ที่หน้าหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีสวนที่แสดงปฏิมากรรมประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการมีส่วนร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทย
พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมได้มีโอกาสไปเป็นอาจารย์ผู้สอนให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในหลายสำนักงานและอบรมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในหลายจังหวัด ก็เลยอยากนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวในประเทศไทยว่า
แคมปัสทัวร์เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ถ้าหากวัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาแล้ว สถาบันการศึกษาก็ทำได้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียวครับ โรงเรียนประถมและมัธยมก็สามารถทำได้เช่นกันเพราะโรงเรียนบางแห่งก็มีประวัติศาสตร์อย่างเช่นโรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัยและโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ผมเคยศึกษาเล่าเรียนมา
ปฏิมากรรมหน้าพิพิธภัณฑ์น่าถ่ายเซลฟี่มาก
มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทยอย่างเช่นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่วิวบรรยากาศสวยงามไม่แพ้ที่ใดในโลก พูดกันตรงๆ ไปเลย มหาวิทยาลัยที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวในสหรัฐอเมริกาสวยสู้มหาวิทยาลัยในเมืองไทยไม่ได้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สวยงามน่าเที่ยว หรือแม้แต่ในกรุงเทพ มหาวิทยาลัยสวนสุนันทนาก็น่าเที่ยวเพราะเคยเป็นวังของเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตแล้วก็ย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ และภายหลังได้เป็นมหาวิทยาลัย
อีกมุมของจุฬาลงกรณ์ใจกลางกรุงเทพมหานคร มาเดินเล่นพักผ่อน
ผมมองว่าการท่องเที่ยวเชิงการศึกษาน่าจะมาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยด้วย วิธีการทำไม่ยากเลยครับ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจะมีศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ใครจะมาจากที่ไหนก็ตามมาที่นี่ทุกวันเวลา 10.00 น. จะมีนักศึกษาพาเดินชม
ปั่นจักรยานในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมมีความเชื่อว่าสถาบันการศึกษาในประเทศไทยก็มีมาตรฐานไม่แพ้ที่ใดในโลก เร็วๆ นี้ประชาคมอาเซียนก็กำลังจะเกิดขึ้น เราสามารถจะใช้การท่องเที่ยวเชิงการศึกษาเป็นแหล่งประชาสัมพันธ์การศึกษาของประเทศไทยดึงให้นักศึกษาต่างชาติมาเรียน และที่สำคัญเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ทางด้านการศึกษาของประเทศไทยให้ครอบครัวพ่อแม่ได้พาลูก ๆ เที่ยวสถาบันการศึกษาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาเหล่าเรียนของชีวิต
ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาของไทยยังไม่มีการท่องเที่ยวแบบแคมปัสทัวร์อย่างเป็นทางการผมก็ขอเรียกร้องและเชิญชวนไปเดินเที่ยวกับครับ หรือถ้าสถาบันการศึกษาแห่งไหนมีอยู่แล้ว
ผมยินดีที่จะช่วยทำการประชาสัมพันธ์ผ่านรายการวิทยุและโปรโมทผ่านโซเชียลเน็ตเวริ์กของผมที่มีอยู่ครับ
แล้วออกไปเที่ยวแคมปัสทัวร์กันนะครับ ถ้าหากไปแล้วก็ถ่ายรูปส่งมาให้ชมกันบ้างครับผม
ชีพธรรม คำวิเศษณ์
Facebook : ชีพธรรม ไตร คำวิเศษณ์
Google+ : ชีพธรรม คำวิเศษณ์
Twitter @tri333
Instagram @tri333
Youtube : youtube.com/trimemory ผู้เขียนพาชมมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดบ้านเกิดของ Facebook.com
พาชมโรงเรียนกฏหมายมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
แคมปัสทัว Harvard Business School (โรงเรียนบริหารธุรกิจฮาร์วาร์ด)
แคมปัสทัวร์สถาบันเทคโนโลยีเอ็มไอที
ความคิดเห็น