รีวิวเที่ยวเมืองไทย มอหินขาว ตกหลุมรัก จ.ชัยภูมิ หลงรักประเทศไทย

คลิปยูทูบเส้นทางไปผาหัวนาค มอหินขาว จ.ชัยภูมิ



จุดชมวิวผาหัวนาค



ผู้เขียนถ่ายไปคุณทอม ผู้ก่อตั้งเว็บไซค์ touronthai.com

ผู้เขียนที่ผาหัวนาค

ก่อนที่จะลงมือเขียนเรื่องราวมอหินขาว จ.ชัยภูมิต่อไปนี้ ผู้เขียนขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ ททท.สำนักงานนครราชสีมา ที่ทำให้ผู้เขียนได้พบกับฝันที่เป็นจริงครับ

มอหินขาว จ.ชัยภูมิ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วว่าสวยกว่า สโตนเฮนจ์ หรือหินที่วางเป็นแท่งของประเทศอังกฤษ ผมเองก็ไม่เคยเห็นหรอกนะครับว่าเป็นอย่างไร แต่ทราบว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของโลกใครไปอังกฤษก็ต้องไปชมที่นี่และในที่สุดผู้ใหญ่ที่เคารพของผมท่านหนึ่งก็มาบอกว่า มอหินขาว นี่สวยกว่าอังกฤษซะอีก  คิดมาเกือบปีว่าอยากจะมาเห็นกับตาในที่สุดฝันก็เป็นจริงครับ


การเดินทางไปมอหินขาว ก็ต้องวิ่งผ่านไป อ.เมือง จ.ชัยภูมิ  จากนั้นออกไปอีก 40 กิโลเมตร วิ่งออกมาจากตัวเมืองสัก 20 ก.ม. ก็จะถึงน้ำตกตาดโตน ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน 


เส้นทาง 20 ก.ม. ก่อนถึงมอหินขาวเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มองออกไปกว้าง สลับเป็นทิวเขา รถวิ่งเลี้ยวเลาะ ผ่านหมู่บ้านซึ่งไม่คิดว่าจะมีชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านใหญ่ เข้ามาสักพักก็ถึง มอหินขาว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

เมื่อไปถึงทางทีมงาน ททท.ได้จัดการเตรียมรถหกล้อไว้ให้โดยจุดแรกต้องขึ้นไปที่ผาหัวนาค ออกจากจุดที่ทำงานออกไปสักประมาณ 1 กม. เมื่อไปถึงก็แวะไปยืนอ่านป้ายเห็นถึงความเป็นมา ผาหัวนาคตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนดา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นส่วนหนึ่งของมอหินขาว เดินขึ้นไปอีกนิดภาพที่เห็นตรงหน้าคือวิวจากที่สูงเห็นเมฆอยู่ในระดับสายตามองลงไปพื้นล่างเห็นท้องทุ่งกว้างใหญ่ เสมือนหนึ่งเหมือนกับเรานั่งอยู่บนเครื่องบินแล้วมองลงมายังพื้นดิน สวยงามได้จินตนาการไปอีกแบบ เพราะผาหัวนาคอยู่ความสูง  จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 905 เมตร

 ผมอยากจะไปนั่งอยู่ตรงนั้นทั้งวันอ่านหนังสือมุมดูวิวที่สวยงาม ดื่มด่ำกับความงามทางธรรมชาติของประเทศไทยที่ไม่แพ้ที่ใดในโลกในฐานะที่ผมเองเป็นชาวเชียงใหม่เป็นคนเมืองภูเขาแท้ๆ  ผมยังบอกกับเพื่อนร่วมคณะที่ไปว่า “เผลอๆ  ผาหัวนาค มอหินขาว สวยกว่าเชียงใหม่ด้วยซ้ำครับ สวยจริงๆ”​


ถ่ายภาพเสร็จตรงที่กั้นให้ยืนชมวิวมีป้ายเขียนบอกว่า จุดชมวิวผาหัวนาค เดินไปอีกสูงขยับขึ้นไปอีกนิดก็จะได้ภาพที่สวยามไปอีกขั้นมุมมองถ่ายภาพที่ประทับใจสวยงาม
เดินเข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ แล้วเสียวสันหลังเหมือนกันกลัวพลาดใส่กางเกงยีนส์ขยับไปมา ถ้าเกิดสะดุดขาตัวเองแล้วพลาดลงไป อาจเกิดเรื่องเศร้าได้ถ้าไปถ่ายภาพตรงนี้ต้องระวังนิดนึงครับ 

ชื่นชมกับความธรรมชาติยังไม่อิ่มเอมนักก็ต้องเปลี่ยนสถานที่ใหม่กระโดดขึ้นรถหกล้อฝุ่นคลุ้งโขมงตามหลังไป แนะนำมีผ้าโพกหัวติดไปสักนิดก็ดีนะครับเพราะถนนยังไม่ลาดยาง ฝุ่นแดงอย่างกับยาผงแดงอย่างนั้น แป๊บเดียวยิ่งกว่าการบินไทย



กลุ่มหินโขลงช้าง มอหินขาว 


ดีใจที่ได้มามอหินขาว


ชมความงามของธรรมชาติกับจินตาการของก้อนหินยักษ์



สังเกตวิวความสวยงามทิวทัศน์หลังก้อนหิน ไกลสุดสายตา




ก้อนหินในแบบต่างๆ  กับธรรมชาติ 175 ล้านปี


เสียงท่าน ผอ.สุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร  ททท.นครราชสีมา “อ้าวขอเชิญลงชมโขลงหินช้าง มองหินแล้วจินตนาการเหมือนโขลงช้างครับ”​ เดินลงไปลัดเลาะดูหินด้วยความทึ่ง อึ้ง สวย ในแบบสวยหินธรรมชาติ ต้องมีจินตนาการสักนิดถึงจะชมมอหินขาวอย่างมีความสุข ก้อนหินเหล่านี้มีอายุตามป้ายที่บอกนักท่องเที่ยว 175 ล้านปี
สายตาของผมมองผ่านก้อนหินทะเลไปไกลถึงภูเขาอีกฝั่งไม่รู้ยาวไกลขนาดไหน แต่บอกว่าวิวสวยมากๆ คนละแบบกับตรงผาหัวนาค  เดินไปสักพักมีเพื่อนชี้ให้ดูก้อนหินที่พี่เบริ์ดธงไชย เคยมาถ่ายมิวสิควีดีโอไว้ เชิญชวนมาเที่ยวนั่นก็คงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับมอหินขาว  ก้อนหินบางก้อนเป็นแท่งสูง บางก้อนที่เป็นช่องที่มีรูขนาดใหญ่มีนักท่องเที่ยวนำไม้ไปค้ำไว้ ทำอย่างกับประเพณีไม้คำ้โพธิ์ของทางวัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 

อากาศลมพัดเย็นสบาย แสงแดดที่แรงกำลังลดความร้อนลงมา นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งอยู่ใกล้ๆ กับผมได้ยินสำเนียงแหลงใต้กันสนั่น
“สวัสดีครับพี่ มาเที่ยวจากที่ไหนกันครับ”
“มาจากนครศรีธรรมราชคะ”
“โหไกลทีเดียวนะครับ”
ทักทายกันตามสมควร จากนั้นผมก็ดูเขาถ่ายเซลฟี่บ้าง กระโดดกันบ้างเพื่อบันทึกความทรงจำของการเดินทางมามอหินขาว จ.ชัยภูมิ 
ผมนึกใจ “นี่ก็คือสวยไม่แพ้สวิสเซอร์แลนด์ ทั้งที่ก็ยังไม่เคยไปเห็นแต่ในรูป แต่ลึก ๆ ผมเชื่อว่า มอหินขาวก็สวยไม่แพ้ไปกว่าสวิตเซอร์แลนด์ แต่อย่าไปเรียกสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยเลยครับ เพราะของเราก็สวยแบบไทย ๆ”

ตรงมอหินขาวในกลุ่มโขลงช้างมีต้นไม้ต้นใหญ่ให้นักท่องเที่ยวไปหลบแดดร้อนกัน
แต่นี่ถ้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่มอหินขาวแล้วใช้วิธีการเที่ยวแบบที่ภูเก็ตนอนอาบน้ำ ก็คงมีความสุขไปอีกแบบ นอนอาบแดดบนภูเขา น่าจะชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมานอนอาบแดดที่มอหินขาวกันบ้าง  ส่วนตัวผมเองอยากนำหนังสือมานั่งอ่านสักเล่ม เอาเสื่อผืนหมอนใบมาปูนอนอ่านหนังสือคงมีความสุขแบบการพักผ่อน ในท่ามกลางภูเขา นี่ถ้าเชิญพวกพ๊อกเก็ตบุ๊คนำเที่ยว Lonely Planet มาเที่ยวรีวิวมอหินขาวเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะมากันเพียบ ว่าแต่ว่าท่านใดไปมอหินขาวก็อย่าลืมเช็คอินอวดโฉมมอหินขาวผ่านโซเชียลมีเดียกันนะครับ ทั้ง Facebook , Instagram, Foursquare,  Swarm ฯลฯ มีอะไรก็เช็คอินใส่เข้าไปให้ครบเครื่องช่วยกันประชาสัมพันธ์ครับ ให้หลงรักประเทศไทยกันเยอะ ๆ 







คลิปยูทูบชมไฮไลท์หิน 5 ก้อน ของ มอหินขาว 

เสียงเรียกขึ้นรถอีกครั้ง “เราจะไปที่ไฮไลต์ของมอหินขาวเป็นหิน 5 แท่งกันครับ”
อ้าวผมคิดว่ามอหินขาวมีแค่กลุ่มหินโขลงช้างเท่านั้น  นั่งรถผ่านที่ทำการไปนิดเดียว
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคิดเห็นเป็นแท่งขนาดมหึมา 5 ก้อน นี่แหละครับที่เขาว่ายังกว่าสโตนเฮนจ์ : Stonehenge ที่อังกฤษ

มุมด้านหลังหิน 5 ก้อน



ผอ.สุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร  ททท.นครราชสีมา (คนใส่หมวก) กับผู้เขียน



หลงรักมอหินขาว หลงรักประเทศไทย



หินทั้ง 5 ก้อน มีรั้วรอบรอบ สมัยก่อนสามารถเข้าไปถ่ายใกล้กับหินได้ครับ แต่ปัจจุบันไม่ได้แล้ว ทางผู้ดูแลคงจะมีเหตุผลที่ห้ามเข้าไป หินแต่ละก้อนมีชื่อเรียงไล่เรียงกันไปเริ่มต้นที่ ขุนศรีวิชัย, หลวงปู่ฤาษี, หลวงสมชาย, หลวงจันทร์ ,หมื่นสิงขร



สรุปการเดินทางไปมอหินขาวถ้าจะได้ให้บรรยากาศครบแล้วสมบูรณ์แบบ เที่ยวผาหัวนาค , กลุ่มโขลงหินช้าง และไปที่หินห้าแท่ง

มอหินขาวสวยมาก ๆ ครับ ถ้ามีโอกาสขอเชิญชวนทุกท่านไปเที่ยวแบบใช้เวลานานๆ สัก 1 วัน ดื่มด่ำบรรยากาศของธรรมชาติ และทุกปี ทาง ททท.ได้จัดกิจกรรม กิจกรรมที่ มอหินขาวอยู่เรื่อย ๆ ผมหวังว่าจะมีโอกาสได้ไปนอนดูดาวที่ มอหินขาว จ.ชัยภูมิครับ

หลงรักมอหินขาว หลงรักจังหวัดชัยภูมิ  หลงรักประเทศไทย

ชีพธรรม คำวิเศษณ์
Twitter @tri333











สามารถติดตามกิจกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ที่  www.เที่ยวอีสาน.com  ครับผม

ความคิดเห็น