จิบน้ำชายามบ่าย The Authors' Lounge อายุ 135 ปีของโรงแรมโอเรียนเต็ล

อาคาร The Authors' Lounge ของโรงแรมโอเรียนเต็ลอายุ 135 ปี ณ พ.ศ.​2554


From โอเรียนเต็ล
โรงแรมอันดับหนึ่งของโลก

โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล เป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของโลกถึง 10 ปี ซ้อน ที่อยู่ในประเทศไทย มีอายุยาวนานกว่า 135 ปี ก่อตั้งใน พ.ศ. 2419 (ค.ศ.1876) ในฐานะที่ผมเป็นนักจัดรายการวิทยุ "รอยอารยะ"เกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์ ทางสถานีวิทยุเนชั่น FM102 ได้เคยเล่าประวัติศาสตร์โรงเรียนโอเรียนเต็ลมาแล้วหนึ่งครั้งแต่ตอนนั้นเป็นการนำข้อมูลที่นิตยสารผู้จัดการได้ทำสกู๊ปออกไป
แต่ในฐานะที่ผมชอบโรงแรมโอเรียนเต็ลในความเป็นโรงแรมระดับโลกในประเทศไทยอยากให้คนไทยได้ภูมิใจกับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในธุรกิจโรงแรมของคนไทยที่มีการให้บริการเป็นที่สุดของโลก






สายน้ำเจ้าพระยาหน้าโรงแรมโอเรียนเต็ล

สายน้ำเจ้าพระยาตลอดระยะเวลา 135 ปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความทรงจำที่งดงามและขมขื่น
ยามที่ผมมองออกไปแม่น้ำเจ้าพระยา
ค่ำคืนวันศุกร์ผมได้มีโอกาสไปฟังดนตรีแจ๊สที่ Bamboo Bar ในโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล (เรียกย่อว่าโอเรียนเต็ล) เป็นวงแจ๊สที่เป็นสุดยอดฝีมือเริ่มเล่นตั้งแต่ 3 ทุ่ม
ผมสั่งวิสกี้(เหล้า) ยอมรับว่าไม่เข้มถึงใจเหมือนกับที่รินเอง มาเคล้าเสียงเปียโน ,ดับเบิ้ลเบส, แซกโซเฟนและเสียงกลอง แถมมีนักเรียน
อิมพอร์ตมาจากเดนมาร์ก เป็นความสุขที่ดื่มดำ่อย่างยิ่ง วิสกี้ไม่พอก็ตามด้วยเบียร์ไปอีกแก้ว


ผู้เขียนกับภาพถ่ายของพระองค์เจ้าปฏษฏางค์ ผู้ทรงทูลขอพระราชทานรัฐธรรมนูญต่อในหลวงรัชกาลที่5

อากาศในห้องชักหนาวแล้ว หยิบหนังสือออกมานั่งอ่านข้างนอก เหลือไปดูนาฬิกาก็เป็นเวลา 5 ทุ่มกว่า ๆ เป็นเวลาควรที่จะต้องกลับแล้ว
ก็เลยถือโอกาสเดินไปดูอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาตอนนั้นผมมาทานอาหารไทยซึ่งอยู่อีกฝั่งต้องนั่งเรือข้ามไป ขากลับเดินผ่านเห็นว่า
เป็นที่สำหรับดื่มชายามบ่าย เห็นภาพเก่าๆ เยอะมากก็เลยต้องสืบค้นประวัติศาสตร์กันสักนิดนึงเพื่อไปจัดรายการวิทยุ



ตึก 135 ปี กับห้องพัก 1,100 เหรียญต่อคืน

ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่าถ้าหากไปโรงแรมโอเรียนเต็ลทราบหรือไม่ครับว่าส่วนใดคืออาคารเก่าของโรงแรมโอเรียนเต็ล
คุณภราณี วิเศษ ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมโอเรียนเต็ล ได้ให้ความกรุณากับผมพาไปยังส่วนอาคารเก่าปัจจุบันคือ
The Authors' Lounge เป็นอาคารเก่าแก่ สมัยก่อนบริเวณข้างล่างจะเป็นล๊อบบี้เวลาแขกผู้มาพักโรงแรม ลงเรือจากแม่น้ำเจ้าพระยา
ก็จะเข้าสู่อาคารแห่งนี ปัจจุบันบริเวณชั้นล่าง เป็นที่นั่งพักผ่อนทานชาและกาแฟยามบ่ายมีห้องอ่านหนังสือ และห้องจัดเลี้ยง
ด้านบนเป็นห้องพักมี 4 ห้องเรียนกว่า Author Sweet ห้องพักตั้งชื่อตามนักเขียนที่เคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้
สนนราคาห้องพักราคา 1,100 เหรียญสหรัฐฯต่อคืน ซึ่งทุกท่านสามารถชมบรรยายห้องพักได้จาก Youtube ครับ





ผมชื่นชอบบรรยากาศของอาคารและสถานที่ตั้งใจว่าจะไปที่โอเรียนเต็ลยามบ่ายเพื่อไปนั่งอ่านและเขียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
เกี่ยวกับรถไฟสายสงครามกลางเมืองที่เคยศึกษาเก็บข้อมูลไว้ รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับ Social Media กับการประชาสัมพันธ์ (www.social4pr.com)
ที่ผมเป็นผู้อำนวยการหลักสูตรอยู่

ถ้าหากท่านผู้อ่านไปทานกาแฟและน้ำชามบ่ายก็ขอให้ชมภาพทางประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งใต้ภาพแต่ละภาพ
มีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ภาพเหล่านั้นเชื่อหรือไม่ครับว่า อายุวันเวลาที่มีการถ่ายภาพเหล่านั้นยังน้อยกว่าอายุของโรงเรียนโอเรียนเต็ลอีกครับ
ที่สำคัญก็คือ เหตุการณ์ รศ.112 ที่ประเทศไทยเสียดินแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง พ.ศ. 2436 ยังเกิดภายหลังโรงแรมแห่งนี้อีกครับ




เสียงกีตาร์คลาสสิคเพลง Romance D Amour ดังจากทางขึ้นบันไดขณะที่ผมกำลังเก็บภาพถ่ายในอดีต
ทำให้ผมหวนนึกถึงบทเพลงนี้เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นที่เล่นเพลงนี้ได้เป็นเพลงแรกได้เล่นคอนเสริ์ตแสดงต่อผู้ชมในการแสดงดนตรี
ของลูกศิษย์ดนตรีสยามกลการ ในจังหวัดเชียงใหม่อดีตความทรงจำของผมกลับมา ครับเช่นเดียวกับโรงแรมโอเรียนเต็ล
ผู้ที่ได้ศึกษาข้อมูลของโรงแรมโอเรียนเต็ลก่อนที่จะมาใช้บริการก็จะได้ซึมซับความบรรยากาศยิ่งใหญ่ของโรงแรมอันเก่าที่สุดของประเทศไทย
และโรงแรมอันดับหนึ่งของโลก 10 ปีซ้อน



กีตาร์คลาสสิคยามบ่ายกับการดื่มน้ำชาและกาแฟ


From โอเรียนเต็ล



ความสุดยอดของโรงแรมระดับโลกอยู่ในเมืองไทยของเรา เพราะฉะนั้นเราคนไทยก็ต้องมาใช้บริการกันเยอะๆ นะครับ
อย่ามัวแต่ไปชื่นชมโรงแรมในต่างประเทศ ครับขอให้ทุกท่านได้ลองไปสัมผัสบรรยากาศของโรงแรมโอเรียนเต็ลกันนะครับ






ความคิดเห็น