ขอไว้อาลัยกับท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศไทย


ท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์


เสาร์ 12 พ.ค. 2550 เป็นวันที่ท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของท่านรัฐบุรุษ ปรีดี พนมยงค์ถึงแก่อนิจกรรม รวมสิริอายุ สิริอายุ ๙๕ ปี ๔ เดือน ๙ วัน ท่านผู้หญิงพูนสุข เป็นอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศไทย ในช่วงที่ท่านปรีดี เป็นนายกฯ รัฐมนตรี ของประเทศไทย เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 หลังจากที่ท่านปรีดี พนมยงค์ หมดอำนาจลงเมื่อปี 2490 ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ ท่านผู้หญิงเป็นผู้ที่วางแผนให้ท่านปรีดีได้หนีไปอยู่ต่างประเทศเพื่อหลบพ้นจากอำนาจความตายจากฝ่ายทหาร เมื่อท่านปรีดีต้องหนีจากประเทศไทย ไปแบบถาวร จากสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศไทย ต้องมีชีวิตอย่างลำบากเลี้ยงดูลูกที่ไม่บรรลุนิติภาวะ ได้รับความทุกข์ยากลำบากอย่างแสนสาหัส
ในปี 2495 หลังจากที่ท่านปรีดีต้องหนีไปกว่า 3 ปี แล้ว ท่านเจอข้อหา กบฏสันติภาพจากรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เพื่อนเก่าท่านปรีดีเมื่อเรียนที่ฝรั่งเศสและก่อการอภิวัฒน์
ท่านผู้หญิงถูกจับกุมขังโดยอยู่ 84 วันที่สันติบาล พร้อมกันนั้นลูกชายคนโตของท่าน ชื่อ ปาล พนมยงค์ ก็ถูกจับกุมขังในข้อหากบฏเช่นเดียวกัน ผมได้มีโอกาสอ่านบันทึกของท่านผู้หญิงตอนที่ลูกท่านถูกจับขอนำใจความสำคัญที่พอจำได้มาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน
ลูกชายของท่านถูกจับ และท่านต้องไปคำพิพากษา วันนั้นท่านได้เข้าไปกอดลูก แต่ก็ต้องสะกดใจไม่ให้มีน้ำตาไหลออกมาเพื่อแสดงความเข้มแข็ง
ให้ลูกเห็น ท่านผู้หญิงในภาพได้จูบแก้มลูกชาย แล้วบอกกับลูกว่า "แม่คงอยู่เมืองไทยไม่ได้แล้วจะต้องเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ" คุณปาลได้ก้มลงกราบเท้าแม่ในท่ามกลางศาล หลังจากที่ออกจากศาลมาคุณหญิงไม่ได้ร้องไห้โฮออกมา และต้องเดินทางจากประเทศไทยเพราะการเมืองช่วงนั้น
รุนแรงมาก นักคิดนักเขียนทางสังคมอย่างกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา , สุวัฒน์ วรดิลก หรือรพีพร ซึ่งเพิ่งจากโลกนี้ไปก็ได้ถูกจับด้วยเช่นกัน ท่านผู้หญิงได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปอยู่กับท่านปรีดี พนมยงค์ที่ประเทศจีน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบห้าปี ผ่านไปทางฝรั่งเศส ย้อนกลับไปทางรัสเซีย
และไปยังประเทศจีน เพื่อไปพบสามีสุดที่รัก ในที่สุดท่านก็ได้อยู่ร่วมกับสามีของท่าน และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับท่านรัฐบุรุษ ทั้งในประเทศจีนและฝรั่งเศสจนกระทั่งท่านปรีดีได้จากไป ในปี 2500 เป็นปีกึ่งพุทธศตวรรษ กบฏสันติภาพได้รับการนิรโทษกรรม และในปีนั้น จอมพลป. พิบูลสงครามก็ได้สิ้นอำนาจลง ด้วยการถูกปฏิวัติจาก จอมพลสฤษฏิ์ ธนะรัชต์ ลูกน้องเก่า ท่านได้กลับมารับลูกชาย ปาล พนมยงค์ หลังจากติดคุกมา 5 ปี ท่านได้พาลูกชายไปเยี่ยมพ่อ ซึ่งอยู่ที่เมืองจีน หลังจากลูกกับพ่อพลัดพลากจากกันไป 10 ปี
ปี 2525 ท่านผู้หญิงได้พบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่คือ คุณปาล พนมยงค์ ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และ ในปี 2526 ท่านรัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ก็ได้จากท่านไป ชีวิตของทั้งสองท่านทั้งท่านเป็นชีวิตที่ผ่านที่เป็นสุดยอดของนักการเมืองและต่ำสุดติดดินแบบไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากอำนาจรัฐ ท่านปรีดีเป็นผู้ประศาสน์การหรือผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกปีจะมีการทำบุญท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ จะได้รับการยกย่องในวงกว้างจากสังคมแสดงว่าคนไทยยังให้ความเคารพรัฐบุรุษและภรรยาอย่างจริงใจ
ผมเองเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชมและนับถือในน้ำใจของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศไทยอย่างยิ่งในยามที่ผัวตกต่ำที่สุด ท่านก็ยังได้อยู่เคียงข้าง ย้อนหลังไป 4 ปีที่แล้วผม
ได้ไปกราบท่านที่บ้านสาทร น่าเสียดายตอนนั้นท่านป่วยไม่สบาย แต่ได้พบกับคุณวาณี พนมยงค์ ลูกสาวของท่าน
ท่านผู้หญิง พูนสุข พนมยงค์ ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา ไม่ยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา ผมอยากให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติของท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ ได้เรียนรู้ถึงชีวิต
และความอดทน ให้ทุกคนได้รู้จักโลกธรรม 8
ในวันนี้ท่านได้จากพวกเราไปแล้ว ผมกับท่านไม่ได้รู้จักกันเป็นส่วนตัว แต่ความดีของท่านและบุญคุณที่มีต่อประเทศไทยในการอยู่เคียงข้างสามีที่เป็นรัฐบุรุษของประเทศที่ทำให้ประเทศเริ่มต้นเป็นประชาธิปไตยและรอดพ้นจากการเป็น
ประเทศแพ้สงคราม เป็นสิ่งที่เราคนไทยจะได้ตระหนักถึงความดีของท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ขอให้ดวงวิญญาณ ของท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ ไปสู่สุขคติ ความดีที่ได้สร้างไว้กับประเทศไทยยังคงอยู่ไม่มีวันเลือนหายแม้ว่าใครจะไม่ทราบก็ตาม

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

ชีพธรรม คำวิเศษณ์
เสาร์ 12 พ.ค. 2550

อ่านบันทึกท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ เขียนบันทึกพินัยกรรม
คำสั่งถึงลูกๆทุกคน

เมื่อแม่สิ้นชีวิต ขอให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้

๑)นำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทันที เมื่อหมอตรวจว่าหมดลมหายใจแล้ว

๒)ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆทั้งสิ้น

๓)ประกาศทางวิทยุ และลงหนังสือพิมพ์เพื่อแจ้งข่าวให้ญาติมิตรทราบ

๔)ไม่มีการสวดอภิธรรม ทั้งนี้ไม่รบกวนญาติมิตรที่ต้องมาร่วมงาน

๕)มีพิธีไว้อาลัยที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ โดยนิมนต์พระที่แม่นับถือแสดงธรรมกถา (เช่นเดียวกับที่จัดให้ปาล) และทำบัตรรับหนังสือที่ระลึก

๖)ไม่รบกวนญาติมิตร ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ หรือเงินช่วยทำบุญ

๗)เมื่อโรงพยาบาลคืนศพมาก็ทำการฌาปนกิจอย่างเรียบง่าย

๘)ให้นำอัฐิและอังคารไปลอยที่ปากน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นสถานที่ๆแม่เกิด

๙)หากมีเงินบ้าง ก็ขอให้บริจาคเป็นทาน แก่มูลนิธิต่างๆ ที่ทำสาธารณกุศล

๑๐)ขอให้ลูกทุกคนปฏิบัติตามที่แม่สั่งไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ต้องฟังความเห็นผู้หวังดีทั้งหลาย ลูกๆที่ปฏิบัติตามคำสั่งของแม่จงมีความสุข ความเจริญ

พูนศุข พนมยงค์

เขียนไว้ที่บ้านเลขที่ ๑๗๒ สาธร ๓ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๑

แม่มีอายุครบ ๘๖ ปี ๙ เดือน

อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมของท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ ได้ที่
นิตยสาร สารคดี http://www.sarakadee.com/feature/2000/04/poonsook.htm
รำลึกถึงความหลัง http://www.pridiinstitute.com/autopage/show_page.php?h=12&s_id=2&d_id=11
ภาพอดีต http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9480000078491

ความคิดเห็น

Da Jazz Kitten กล่าวว่า
พินัยกรรม ที่งดงาม หมดจด
ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า
на этом интернет-блоге подобран огромный выбор свежих новостей про [url=http://bednayaove4ka.ru/]сайт для женщин стильная штучка[/url].