เรียน MBA ฟรีที่ Harvard (บทนำ) ธันวาคม 19, 2552 รับลิงก์ Facebook X Pinterest อีเมล แอปอื่นๆ "First, I believe that this nation should commit itself to achieving the goal, before this decade is out, of landing a man on the Moon and returning him back safely to the earth. No single space project in this period will be more impressive to mankind, or more important for the long-range exploration of space; and none will be so difficult or expensive to accomplish." (ข้อมูลจาก wikipedia)จอห์น เอฟ เคนเนดี้ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ ได้เคยแสดงวิสัยทัศน์ข้างต้นว่าจะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ก่อนสิ้นศตวรรษ เราถ้าหากเราจะเปิดโอกาสให้คนไทยที่มีความสามารถมีความฝันและต้องการเรียนที่ Harvard Business School แต่เขาไม่มีโอกาสและมีอุปสรรค ไม่สามารถไปเรียนได้ แต่เราอย่าให้สิ่งเหล่านั้นมีอุปสรรค มาวันนี้ อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีได้ทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีโอกาสที่จะได้ร่ำเรียนตามกระบวนการเหมือนแบบบุคคลทั่วไปจึ่งเป็นที่มาของ Everyone Can Study @ Harvard Business School ทุกคนที่อยากเรียนโรงเรียนบริหารธุรกิจแห่งนี้เรียนได้ผ่านอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะไม่เต็มเลยแต่ก็เป็นกึ่งๆ เสมือนจริงสิ่งที่แตกต่างคือไม่ได้เข้าไปนั่งเรียนและแสดงความคิดเห็นกับนักศึกษาผมก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ ขอลามาอเมริกาเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หลังจากรอเวลาเพื่อที่จะได้ไปเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนอกกับเขาบ้างมาถึง 17 ปี โรงเรียนบริหารธุรกิจ Harvard หรือ Harvard Business School (HBS) คือเป้าหมายในการเขียนบทความ ไม่ใช่คุณต้องเก่งระดับหัวกะทิของประเทศ ผมก็ไม่ใช่คนเก่ง แต่ผมเป็นกล้าและใฝ่รู้ผมอยากให้คนไทยมาเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตกับ HBS กันเยอะ ทั้งที่ผมเองก็มาเป็นครั้งแรกคนที่มาเรียนที่นี่ได้ต้องเป็นคนเก่งมาก ๆ เพราะเขาจะต้องคัดเลือกนักศึกษาที่เก่งจากบุคคลทั่วโลกที่ต้องแข่งขันเข้าไป เงินไม่ใช่อุปสรรคแต่ทำอย่างไรที่จะได้เข้าไปเรียนและสมองรวมถึงทักษะภาษาอังกฤษที่จะสื่อสารเรื่องธุรกิจกับนักเรียนด้วยกันได้หรือไม่ แต่ผมเองเหมือนกับคนทั่วไปที่ไม่เก่งแต่ก็อยากเรียนเลยอยากเอาตัวเองเข้ามาทดลองและพิสูจน์แล้วว่าทำได้เลยขอกระจายความรู้ให้กับคนไทยทุกคนจะได้ไม่น้อยหน้าใครในโลกแม้แต่ชาวอเมริกันบางคนยังไม่เคล็ดลับเรียนที่HBS นะครับ การศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้อย่างเปลี่ยนแปลงมนุษย์และประเทศไทยของเราได้From Harvard Universityอากาศเย็น ๆ หนาวๆ ต้นเืดือนธันวาคม ผมมาถึงมหาวิทยาลัย Harvard สถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกที่หลายคนอยากปรารถนาจะเข้าเรียน ที่นี่ บุคคลชั้นนำของโลกทางด้านการเมืองและด้านธุรกิจทั้งไม่จบการศึกษาจากที่นี่ และ จบการศึกษาจากที่นี่ไปสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ให้กับโลก ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยากเรียนที่นี่เหมือนกันแม้แต่คนในประเทศเขาเองยังยากที่จะได้สัมผัสมหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะว่าต้องเป็นคนเก่งสุดยอดหัวกะทิ และ ต้องมีเงิน (เบื้องต้น) สองอย่างนี้ต้องควบคู่กันFrom Harvard Business SchoolHarvard Business School เป็นสุดยอดของโรงเรียนบริหารธุรกิจที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในปี 2008 สถาบันแห่งนี้มีอายุครบรอบ 100 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชนในหลายช่วงของการเปลี่ยนผ่านของโลกนี้ (http://www.hbs.edu/centennial)บนโลกของอินเทอร์เน็ตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ HBS แม้ว่าจะเข้ามาเรียนยากแต่อินเทอร์เน็ตทำให้ทุกคนสามารถที่จะเข้ามาเรียนจากที่นี่ได้ผ่านโลกอินเทอร์เน็ตเป็นกระบวนการและทดสอบด้วยตนเองมาถึง 10 ปี ไม่ยากเลยในการเรียน HBS ด้วยตนเองขอให้มีอินเทอร์เน็ต , Itunes , ความรู้ภาษาอังกฤษ (ไม่ต้องเก่งระดับสอบ Toeflได้) , ความมุ่งมั่นท่านก็สามารถเรียน Harvard ได้ เชื่อผมเถอะครับ แม้ว่าจะไม่ได้ปริญญา ท่านก็ได้ความรู้มาประยุกต์เข้ากับธุรกิจและการศึกษาของทุกท่านได้HBS ไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อม อยู่ที่ความสนใจของทุกท่าน ประเทศสหรัฐฯ ประสบปัญหาภายในประเทศอย่างมาก ทั้งภาคการเงิน ,อุตสาหกรรมรถยนต์, อสังหาริมทรัพย์ , ความสามารถทางการแข่งขันของอุตสหากรรม, ทุนมนุษย์ , การศึกษาของประชาชนในประเทศ เยอะแยะมากมายไปหมด ผมเห็นจากสินค้าและบริการต่าง ๆ ของ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น,จีน และภาคพื้นยุโรป เข้ามาตีตลาด สินค้าอเมริกันจริงๆ แทบจะหายไปจากห้างสรรพสินค้า ขอลงรายละเอียดเล็กน้อยแล้วกันครับ มองเป็นจุด ๆ ไปเลย อุตสาหกรรมรถยนต์ ก็แทบจะล้มละลาย อย่างยักษ์ใหญ่ Big 3 ได้แก่ Ford, General Motor, Chysler ที่ขอการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลถ้าไม่ได้อุตสาหกรรมที่เป็นกระดูกสันหนังของประเทศต้องพังทลายลงไป , ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี , เครื่องเล่น DVD , เครื่องเล่นเกมส์ , โทรศัพท์มือถือ เกาหลีใต้,ญี่ปุ่น ,จีน ฟาดเรียบ แทบจะไม่เห็นของอเมริกันเลยแต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นกับตาและคิดว่ายังเป็นที่ต้องการของชาวโลกนั่นคือระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของอเมริกันนั่นเอง ผู้คนจากทั่วโลกนั่งเครื่องบินมาเพื่อเรียนหนังสือเก็บสิ่งที่จับต้องไม่ได้คือความรู้ที่สหรัฐฯมีไว้ขายให้ ตั้งแต่เรียนภาษาอังกฤษ หลักสูตรปริญญาตรี,โท,เอก กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ มหาวิทยาลัยแข่งขันด้านความรู้ ผมเห็นนักศึกษาอย่างจีน ,เกาหลี, ญี่ปุ่น ประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียของเรา เดินกันขวักไขว่ในมหาวิทยาลัย ประเทศเหล่านั้นลงทุนในทรัพยากรมนุษย์มากแล้วอย่างไร ผมคิดว่าเขาคงเอาความรู้วิชาการด้านธุรกิจต่าง ๆ ที่ได้จากสหรัฐฯ นั่นแหละกับไปค้าขายและต่อสู้ทางการค้ากับสหรัฐ ฯ นิตยสาร Business Week ฉบับวันที่ 22 ธันวาคม 2008ในบทความ The Foreigners At the Top of LGยักษ์ใหญ่เครื่องไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ว่าจ้าง นักบริหารชาวอเมริกัน ด้านการตลาด, จัดซื้อ ,บริหารสินค้าคงคลัง ,ทรัพยากรบุคคล มาร่วมงานด้วย กลยุทธ์อัดยายซื้อขนมยายนั่นแหละครับFrom Columbia Universityผมใช้เวลา 6 เดือนในนิวยอร์ค , ฟิลาเดลเฟีย และ บอสตัน เพื่อค้นหาความจริงบางอย่างว่าทำไมคนถึงอยากมาเรียนกันที่นี่มาก และระบบการศึกษาของอเมริกัน ตั้งแต่ เรียนภาษาอังกฤษสำหรับตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึง มหาวิทยาลัยที่มีชื่ออย่าง Columbia , New York University , Harvard , University Of Pennsyvania , Queen College ได้เห็นความแตกต่างบางอย่างที่อเมริกันชนเปิดกว้างสำหรับการศึกษา ผมไปเรียนภาษาอังกฤษที่วิทยาลัยชุมชน ไปร่วมงานเปิดตัวหลักสูตร เห็นความกระตือรือร้นของสถาบันให้กับนักศึกษาแม้ว่าจะไม่ใช่ชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัยที่เรารู้จักกัน เขาก็ชวนชวนแนะนำให้ไปเรียนผมไปที่ Columbia Business School ในนิวยอร์ค ผมต้องแปลกใจมากว่าโรงเรียนบริหารธุรกิจชั้นนำ อย่าง Columbia สามารถจะไปลงทะเบียนเข้าฟังฟรีได้ในวิชาต่าง ๆ ที่นักศึกษากำลังเรียนอยู่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีอย่างนี้ด้วยหรือ เขาจะมีตารางกำหนดให้เรียบร้อยจาก Columbia University ห่างจากอีกประมาณ 80 ไมล์ ผมย้ายมาอยู่ ฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิวาเนียที่นี่เป็นที่ตั้งของ University of Pennslyvaniaในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีโรงเรียนบริหารธุรกิจที่คนไทย รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ Wharton School ที่นักการเงินไทยหลายคนอย่าง ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ , ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ ที่ท่านเป็นวิทยากรประจำรายการวิทยุที่ผมเป็นดีเจเมื่อหลายปีก่อน ผมลงทะเบียนไปทางอินเทอร์เน็ต และได้เข้าไปนั่งเรียนร่วมกับนักเรียนที่นั่น ใน 2 วิชา ได้ร่วมเดินชมมหาวิทยาลัย (Campus Tour) และ ต้องรู้สึกทึ่งว่า มีคนลงทุนบินมาจากญี่ปุ่นและจากเมืองอื่นๆ ของสหรัฐฯเพื่อมาดูรายละเอียดของสถาบันแห่งนี้ ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาลงทุนกันขนาดนี้เลยหรือ แน่นอนใครที่อ่านคงบอกว่าค่าเรียนแพง หรือเป็นการโฆษณาสถาบันก็คงไม่ผิด แต่เขาเปิดกว้างจริงๆ “การเรียนต่อปริญญาโทเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ ไม่ต้องรีบร้อนให้คุณแน่ใจก่อนแล้วค่อยลงเรียน เอานามบัตรของผมไปก่อน คุณอยากเข้าไปฟังวิชาไหนบอกผม หรือยื่นนามบัตรผมก็เข้าไปฟังได้แล้ว”นี่เป็นคำพูดของผู้บริหาร Baruch College ในนิวยอร์ค ที่ผมไปร่วมฟังข้อมูลมหาวิทยาลัยของเขามาFrom Wharton Business Schoolอนุสาวรีย์ เบนจามิน แฟลงคลิน ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย เพนซิวาเนียผมเคยไปสอนให้กับ Executive MBA Program ของนิด้าเมื่อ 2 ปีก่อนเกี่ยวกับ อีคอมเมริ์ชบรรยากาศก็คล้ายๆ กัน ประสบการณ์ผมก็เคยร่วมงานกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งแต่ไม่เคยเห็นให้เข้าไปลงทะเบียนฟังกันก่อนและเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยเหมือนอย่างกับที่สหรัฐฯ รู้ว่าผมไม่ทราบหรืออย่างไร ถ้ามีอย่างนี้บ้างก็คงจะดีที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในบ้านเราใจกว้างให้คนทั่วไปเข้าไปนั่งเรียนด้วยบ้างเพราะเขาอาจยังไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง แต่สนใจที่จะเล่าเรียนหรือศึกษาก่อนบ้านเราก็เพียงแต่แจกโปรชัวร์แนะนำเล่าให้ฟัง และ จัดงานสัมมนาผมเจอว่าที่นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่ Harvard Kennedy School (คณะรัฐศาสตร์ของ Harvard) ได้สอบถามและพูดคุย เขาบอกว่าเป็นความฝันที่อยากมาเรียนที่นี่ ผมถามต่อไปว่าสมัครไปที่ไหนแล้วบ้างเธอบอกว่า Stanford , Columbia, Yale พวกนั้น ไม่รู้ว่าเธอได้รับอิทธิพลจากภาพยนต์Love Story in Harvard หรือเปล่า ผมคิดว่ามนต์ขลังความรักของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้หนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้คงอยากมาเรียนที่นี่กันเยอะ และ ปัจจุบันชาวเกาหลีใต้มาเรียนที่ Harvard เยอะมากจริงๆ ครับชาวเกาหลีใต้เดินทั่วมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเรื่องตลกอย่างหนึ่งที่ผมอยากเล่าในบทนำก่อนที่เราจะไปเริ่มเรียนกัน ชายหนุ่มจากบราซิลเขาพบกันผมที่ Wharton School และผมต้องตกใจอีกครั้งเมื่อผมกับเขาที่ Harvard Business School เขานั่งรถมาจากนิวยอรค์ถึง 4 ชั่วโมงเพื่อมาฟังข้อมูล 1 ชั่วโมง และต้องกลับไปนิวยอร์ค อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับไปยังบราซิลทำให้ผมทึ่งเหลือเกินว่า อเมริกายังมีมนต์ขลังเรื่องการศึกษาเสมอผมคิดว่าบทความ Everyone Can Study @ HBS เป็นหนังสือเล่มแรกในโลกที่ได้ฉายภาพการเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกด้วยตัวเองและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรียนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้เป็นการข้ามและเปิดโอกาสให้กับคนไทยอีกหลายล้านคนที่อยากสัมผัสมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกมหาวิทยาลัยบ้านเราถ้าหากปิดกั้นมาก เอาแต่คนเก่งและมีเงินหรือ ทุกท่านทียังไม่พร้อม ลงมาอ่านบทความและสัมผัสดูครับ ว่าEveryone Can Study @ HBSทำได้จริงหรือไม่ผมจะแนะนำขั้นตอนอย่างละเอียดและเทคนิคการเรียนรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเองเชื่อว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยจากบทความนี้ครับผมขอขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่ที่ช่วยสนับสนุนทุกอย่างที่ผ่านมา , อาจารย์ประมุข หอประสาทสุข ผู้ร่วมสนับสนุนทุนให้ไปศึกษาค้นคว้าความจริงของการศึกษาอเมริกัน , กบ ชวลักษณ์ สรรพกิจจำนง เพื่อนผู้น่ารักที่คอยช่วยเหลือในวันที่เดินทางไปถึงนิวยอร์ค ,พี่ติ๋มและพี่น้องแห่งโรงแรมบ้านสิริ, คุณป้า Samantra Savage หรือคุณป้าสงวน บุตตะไทยหญิงไทยผู้แข็งแกร่งวัย 61 ปี จากจังหวัดอุดรธานี ผู้มาสร้างชีวิตและครอบครัวที่ฟิลาเดลเฟียกว่า 40 ปี ได้อนุเคราะห์ให้ผู้เขียนพักและอาศัย ,คุณต้อม ชายหนุ่มจากจังหวัดน่านผู้ให้ที่พักกับผู้เขียนในคราวไปเยือน Harvard,คุณชลธณี แก้วโรจน์ และคุณมานะ สงวนสุข ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ The King Of Thailand Birthplace Foundation (KTBF) ผู้เกื้อกูลผู้เขียนทุกอย่างเมื่ออยู่ที่รัฐแมสซาชูเสส , คุณนงลักษณ์ มีทอง ประธานสมาคมนักเรียนไทย MIT , นักศึกษาไทยแห่ง HBS คุณวิณณ์ณ์ ผาณิตวงศ์ คุณรุจิระ หงส์ลดารมภ์ คุณกัญญฉัชฌ์ สืบจากลาภปอ เพื่อนรักนิติศาสตร์ ม.พายัพ ที่มาเจอบังเอิญที่นิวยอร์ค และ ผู้มีพระคุณทุกท่านที่ได้เคยเกื้อหนุ Everyone Can Study @ Harvard Business School ให้เป็นจุดเริ่มต้นการเรียนด้วยตนเองกับโรงเรียนบริหารธุรกิจระดับโลกครับ ความคิดเห็น ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า ผมลองเข้าไป download ผ่าน itunes แล้วมันไม่มีของ HBS เลยครับ ไม่ทราบว่าเขาทำการบล็อคไม่ให้ download ในส่วนของประเทศไทยหรือป่าวและส่วนของ HBR ก็เหมือนกันครับ พอลองสมัคร podcast มันก็บอกว่า unavailable in Thailand พอมีวิธีแก้มั้ยครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็น
และส่วนของ HBR ก็เหมือนกันครับ พอลองสมัคร podcast มันก็บอกว่า unavailable in Thailand พอมีวิธีแก้มั้ยครับ ขอบคุณครับ