ทักษิณ ปลุกตลาดหุ้นไทย: วิสัยทัศน์เศรษฐกิจ AI และ Bitcoin
บทความ
ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งบนเวทีปาฐกถา
โดยครั้งนี้ท่านได้แสดง วิสัยทัศน์ต่อหน้าผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์และกองทุนรวม เนื้อหาปาฐกถาครอบคลุมหลากหลายประเด็น ตั้งแต่ การฟื้นฟูตลาดหุ้นไทย ไปจนถึง ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจไทยในยุคดิจิทัล
จุดเริ่มต้นของปาฐกถา ดร. ทักษิณสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง ท่านกล่าวติดตลกถึงความกังวลของผู้จัดการกองทุนที่คาดหวังว่าตลาดหุ้นจะต้องขึ้นหลังจากการปาฐกถา
จากนั้น ดร.ทักษิณ เข้าสู่ประเด็นหลัก โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหาของตลาดหุ้นไทย ท่านชี้ว่าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ขาดความเชื่อมั่น ความมั่นใจ และมีทัศนคติเชิงลบ ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดหุ้น
ดร.ทักษิณ มองว่าตลาดหุ้นไทยมีศักยภาพ แต่เผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างหลายประการ ได้แก่:
- ปัญหาธรรมาภิบาล (Corporate Governance): บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งขาดความโปร่งใส ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. แก้ปัญหาได้ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
- ปัญหา High Frequency Trade Robot: การเข้ามาของโปรแกรมซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ (Robot Trade) ทำให้เกิดการซื้อขายหุ้นที่มีความถี่สูง โดยไม่ได้สร้างประโยชน์ใด ๆ นอกจากผลกำไรเพียงเล็กน้อย และยังทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างนักลงทุน
- ปัญหา Slow Action: ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นช้า ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่น
- ธุรกิจเดิม ๆ ในตลาดหลักทรัพย์: ดร.ทักษิณ มองว่าธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ไทยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเดิม ๆ ขาดบริษัทขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ
- สภาพคล่องและราคาหุ้น: หุ้นหลายตัวในตลาดหลักทรัพย์มีราคาต่ำ และสภาพคล่องน้อย
- ขาดการปรับตัวสู่โลกดิจิทัล:
จากปัญหาดังกล่าว ดร.ทักษิณ เสนอแนวทางแก้ไขและพัฒนาตลาดหุ้นไทยหลายประการ ได้แก่:
- เพิ่มอำนาจให้ ก.ล.ต.: เพื่อให้สามารถจัดการปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- เชิญชวนบริษัทขนาดใหญ่เข้าตลาด: ทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณและมูลค่าของหุ้นในตลาด
- สนับสนุนให้บริษัทซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock): เพื่อให้ราคาหุ้นใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี และเพิ่มสภาพคล่องในตลาด
- พัฒนา ก.ล.ต. สู่ Digital Platform:
- อนุญาตให้ซื้อขาย Stable Coin
- เปิดตลาดซื้อขาย Carbon Credit
- รองรับ Real World Asset Tokenization
- ออกใบอนุญาต Virtual Bank
- สร้างตลาดหุ้นไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงิน:
- พิจารณาต่ออายุ LTF: เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดหุ้น
นอกจากการแก้ไขปัญหาตลาดหุ้นไทย ดร.ทักษิณ ยังได้เสนอวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในด้านต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ประเด็นสำคัญที่ ดร. ทักษิณ กล่าวถึง ได้แก่:
- การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: เช่น สนามบิน ถนน รถไฟใต้ดิน เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
- การส่งเสริม Soft Power: โดยการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ เช่น อาหาร เชฟ มวยไทย ไทยสปา อีสปอร์ต และการขายสินค้าออนไลน์ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้
- การส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่: เช่น Data Center, AI Hub, อุตสาหกรรมยา (Pharmaceutical) และ Semiconductor เพื่อทดแทนการนำเข้าและสร้างงานในประเทศ
- การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของรัฐ: เช่น การให้เช่าที่ดินของรัฐ 99 ปี เพื่อสร้างบ้านจัดสรรบนภูเขา หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินของการรถไฟ
- การกระจายรายได้สู่ชนบท: เช่น การจูงใจให้บริษัทในกรุงเทพฯ ย้ายสำนักงานใหญ่ไปต่างจังหวัด การพัฒนาสนามบินต่างจังหวัดให้เป็น Hub และการใช้ Digital Wallet เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินในชนบท
- การนำเทคโนโลยีมาใช้: โดยเฉพาะ Blockchain และ Cryptocurrency เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ
- ลดค่าไฟฟ้า: เพื่อลดต้นทุนการผลิตและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ
- แก้ปัญหา PM 2.5: โดยการควบคุมการเผาในภาคเกษตรกรรม และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
- แก้ปัญหา Scam และ Call Center: โดยการตัดการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นแหล่งของกลุ่มมิจฉาชีพ และใช้ Digital ID เพื่อควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์พนัน
- จัดการเงินทุนนอกระบบ: โดยการพิจารณานโยบายนิรโทษกรรมภาษี เพื่อนำเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
- พัฒนาคนให้มีทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล: โดยเฉพาะ AI literacy
ดร.ทักษิณ เชื่อว่าการลงทุนในหลากหลายรูปแบบดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติ
ตลอดการปาฐกถา ดร. ทักษิณ แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ท่านมองว่า ประเทศไทยยังมีอนาคตที่สดใส เพียงแต่ขาดการบริหารที่ถูกต้อง และ เรียกร้องให้คนไทยมีความสามัคคี ร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาประเทศ
ในตอนท้ายของปาฐกถา ดร. ทักษิณ แสดงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ ท่านกล่าวว่า จะใช้ประสบการณ์ ความรู้ และความสามารถ ทุ่มเทให้ประเทศอย่างเต็มที่
การปาฐกถาของ ดร. ทักษิณ ในครั้งนี้ นับเป็นการจุดประกายความหวังและความเชื่อมั่นต่ออนาคตของเศรษฐกิจไทย ท่านได้นำเสนอ วิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมและชัดเจน รวมถึง แนวทางการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ความคิดเห็น