กฤษฎีกา 2 มาตรฐาน: เศรษฐพุฒิ ซ้ำรอย กิตติรัตน์ ส่อหลุดผู้ว่าแบงก์ชาติ?

 กฤษฎีกา 2 มาตรฐาน: เศรษฐพุฒิ ซ้ำรอย กิตติรัตน์ ส่อหลุดผู้ว่าแบงก์ชาติ?



สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีบทบาทสำคัญในการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นทางกฎหมายแก่รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ 1 ล่าสุด การตีความคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ถูกเสนอชื่อเป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ก่อให้เกิดคำถามถึง "มาตรฐาน" และ "ความเป็นอิสระ" ขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงกรณีที่คล้ายคลึงกันในอดีตที่เกี่ยวข้องกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบัน

ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียง คือ การดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกิตติรัตน์เคยดำรงตำแหน่งนี้ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ถูกตีความโดยคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าเข้าข่าย "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" ซึ่งขัดกับคุณสมบัติของการเป็นประธานกรรมการ ธปท. ตาม พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 2 โดยอ้างอิงจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 ซึ่งไม่ได้บัญญัติให้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งทางการเมือง 3

อย่างไรก็ตาม ข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้น คือ นายเศรษฐพุฒิเองก็เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นกัน แต่กลับสามารถดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. ได้ ซึ่งนำไปสู่ข้อครหาเรื่อง "กฤษฎีกา 2 มาตรฐาน" และความไม่เป็นกลางทางการเมือง 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากคำให้สัมภาษณ์ของนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท. ที่ระบุว่า "เรื่องนี้มีหลักรัฐศาสตร์เข้ามาด้วยซะแล้ว คือมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง" 5

ความเห็นจากนักกฎหมาย

นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยอ้างอิง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 4 โดยระบุว่า คำว่า "ตำแหน่งทางการเมือง" ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ครอบคลุมถึงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี 3 การตีความในลักษณะจำกัดสิทธิเช่นนี้ ควรตีความตามตัวอักษรโดยเคร่งครัด ไม่ควรตีความขยายความเกินกว่าที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งอาจเป็นการตีความตามอำเภอใจ 3

นอกจากนี้ ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับความหมายของคำว่า "ตำแหน่งทางการเมือง" ในบริบททางประวัติศาสตร์ โดยอ้างอิงจากหนังสือบรรยายประวัติศาสตร์กฎหมายของหลวงสุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งบ่งชี้ว่าการตีความคำว่า "ตำแหน่งทางการเมือง" อาจมีความแตกต่างกันไปตามยุคสมัยและบริบททางสังคม 6


Argument

For Eligibility

Against Eligibility

ตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง

3

2

การตีความกฎหมายต้องเคร่งครัด

3


บริบททางประวัติศาสตร์

6


ผลกระทบต่อเศรษฐพุฒิ

แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่ากรณีนี้จะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. ของนายเศรษฐพุฒิโดยตรงหรือไม่ 3 แต่ข้อครหาเรื่อง "กฤษฎีกา 2 มาตรฐาน" อาจบั่นทอนความน่าเชื่อถือของ ธปท. และอาจนำไปสู่แรงกดดันทางการเมืองให้มีการพิจารณาคุณสมบัตินายเศรษฐพุฒิอีกครั้ง 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความกังวลของนักเศรษฐศาสตร์กว่า 800 คน รวมถึงอดีตผู้ว่าการ ธปท. 4 คน ที่เตือนถึงผลกระทบของการแทรกแซงทางการเมืองต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว 7 นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการฟ้องร้องหรือยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น

บทวิเคราะห์

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของ ธปท. และองค์กรอิสระอื่นๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องความเป็นอิสระ การแทรกแซงทางการเมือง และการขาดความโปร่งใสในการแต่งตั้งบุคคล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว 8

ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่

  • บทบาทของคณะกรรมการ ธปท. ในการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ: คณะกรรมการบริหารของ ธปท. มีอำนาจในการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมคณะกรรมการที่สำคัญ 3 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน 9 ซึ่งการแต่งตั้งบุคคลเหล่านี้ อาจมีผลต่อทิศทางนโยบายและการดำเนินงานของ ธปท.

  • เสียงวิพากษ์วิจารณ์ กนง. จากพรรคเพื่อไทย: พรรคเพื่อไทยได้วิพากษ์วิจารณ์ กนง. ซึ่งมีนายเศรษฐพุฒิเป็นประธาน ว่าคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ "สูงเกินไป" ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น 9 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ธปท. ที่มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพด้านราคา

  • จดหมายเปิดผนึกคัดค้านการแต่งตั้งนายกิตติรัตน์: กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ อดีตผู้ว่าการ ธปท. และอดีตพนักงาน ธปท. จำนวนมาก ได้ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการแต่งตั้งบุคคลที่มีความเชื่อมโยงทางการเมืองกับรัฐบาล ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ธปท. 9 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงความเป็นอิสระของ ธปท.

  • ท่าทีของรัฐบาล: รัฐบาลไทยยืนยันว่าเคารพในความเป็นอิสระของ ธปท. แต่ต้องการให้ ธปท. มีบทบาทมากขึ้นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 8 ซึ่งอาจตีความได้ว่ารัฐบาลต้องการมีอิทธิพลต่อนโยบายของ ธปท. มากขึ้น

  • ผลกระทบจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ: การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบาย "กำแพงภาษี" ที่อาจนำไปสู่การเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตราสูงถึง 60% 10 ซึ่งไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการเจรจาการค้า เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

  • การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย: การยุบพรรคก้าวไกล การปลดนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และการเลือกตั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี 11 ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความเป็นอิสระของ ธปท. โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการจัดตั้งพรรคใหม่ เช่น พรรคประชาชน 11 และอิทธิพลของกลุ่มการเมืองต่างๆ

  • ความเป็นไปได้ที่ขบวนการก้าวหน้าจะมีอิทธิพลมากขึ้น: แม้พรรคก้าวไกลจะถูกยุบ แต่กระแสสนับสนุนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ผิดหวังกับความขัดแย้งทางการเมืองและคำตัดสินของศาล ยังคงมีอยู่ 11 ซึ่งอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งในอนาคต และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ส่งผลต่อ ธปท.

จากประเด็นต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เห็นได้ว่ากรณี "กฤษฎีกา 2 มาตรฐาน" ไม่ได้เป็นเพียงประเด็นทางกฎหมาย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการเมือง การใช้อำนาจ และการขาดธรรมาภิบาลในสังคมไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ข้อเสนอแนะ

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่คล้ายคลึงกันซ้ำรอย ควรมีการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส และปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง รวมถึงการสร้างกลไกตรวจสอบถ่วงดุลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นอิสระและความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรมีการพิจารณาประเด็นต่อไปนี้

  • ทบทวนนิยาม "ตำแหน่งทางการเมือง": ควรมีการทบทวนนิยาม "ตำแหน่งทางการเมือง" ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความชัดเจน ครอบคลุม และสอดคล้องกับบริบททางสังคมและการเมืองในปัจจุบัน รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

  • เพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการแต่งตั้ง: ควรเปิดเผยข้อมูลและขั้นตอนการสรรหา คัดเลือก และแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระ ให้สาธารณชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และลดโอกาสในการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง

  • สร้างกลไกตรวจสอบและถ่วงดุล: ควรมีกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจขององค์กรอิสระ โดยอาจจัดตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระอื่นๆ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ และส่งเสริมธรรมาภิบาลในการบริหารงาน

  • ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์กรอิสระ: ควรส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และความสำคัญขององค์กรอิสระ ให้แก่ประชาชน สื่อมวลชน และนักการเมือง เพื่อให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นอิสระขององค์กรอิสระ และร่วมกันปกป้ององค์กรเหล่านี้จากการแทรกแซงทางการเมือง

บทสรุป

กรณี "กฤษฎีกา 2 มาตรฐาน" ในการตีความคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ ไม่เพียงแต่เป็นประเด็นทางกฎหมาย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการเมือง การใช้อำนาจ และการขาดธรรมาภิบาลในสังคมไทย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเป็นธรรม ความน่าเชื่อถือ และเสถียรภาพให้กับประเทศในระยะยาว การปฏิรูปองค์กรอิสระ รวมถึงการส่งเสริมธรรมาภิบาล จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คำถามที่สำคัญคือ สังคมไทยจะพร้อมใจกันผลักดันการปฏิรูป เพื่อสร้างระบบที่เป็นธรรม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ หรือไม่?

ผลงานที่อ้างอิง

1. คณะกรรมการพัฒนากฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.lawreform.go.th/

2. มหากาพย์!! เก้าอี้ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ รอกฤษฎีกายืนยันคุณสมบัติ "กิตติรัตน์ ..., เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.infoquest.co.th/2024/456829

3. นายกสมาคมทนายฯ เเย้งกฤษฎีกา กรณี 'กิตติรัตน์' - Thaipost.net, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.thaipost.net/x-cite-news/714492/

4. 'สถิตย์' คอนเฟิร์มกฤษฎีกายังไม่ตอบปม 'กิตติรัตน์' - Thaipost.net, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.thaipost.net/economy-news/714360/

5. “สถิตย์” เชื่อตั้ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” มีการเมือง 2 ฝ่ายจุ้น! - Kaohoon, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.kaohoon.com/news/722635

6. เกี่ยวกับองค์กร - สำนักงานอัยการสูงสุด, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.ago.go.th/aboutus/

7. Economists warn about meddling in Bank of Thailand - Bangkok Post, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.bangkokpost.com/business/general/2899181/economists-warn-about-meddling-in-bank-of-thailand

8. Central bank independence challenged in many countries, Thai bank governor says - VOA, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.voanews.com/a/central-bank-independence-challenged-in-many-countries-thai-bank-governor-says/7850337.html

9. Kittiratt Na-Ranong: Frontman for Pheu Thai's hostile takeover of central bank?, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://world.thaipbs.or.th/detail/kittiratt-naranong-frontman-for-pheu-thais-hostile-takeover-of-central-bank/55392

10. Expert urges Thailand to be prepared for drastic policy swings in US, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.nationthailand.com/news/politics/40042912

11. Thailand's Political Shakeups - Speyside Group, เข้าถึงเมื่อ ธันวาคม 26, 2024 https://www.speyside-group.com/thailands-political-shakeups/


ความคิดเห็น